จากกรณีที่เป็นข่าวครึกโครมออกไปว่า มีชาวเมียนมาเดินทางกลับจากไปหลังจากนั้นได้ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลย่างกุ้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 6 ก.ค.63 ไม่มีอาการไข้ หรืออาการผิดปกติเลย และล่าสุด สาธารณะสุขไทยได้ ส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่
10 ก.ค. 63 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรคได้ประสานข้อมูลกับประเทศเมียนมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ พร้อมมอบหมายให้กองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 5 จังหวัดราชบุรี (สคร.5 จ.ราชบุรี) และสำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก (สคร.2 จ.พิษณุโลก) เร่งดำเนินการสอบสวนโรคและรายละเอียดเพิ่มเติมร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
จากการสอบสวนพบว่า ขณะอยู่ในประเทศไทยผู้ป่วยเช่าหอพักอยู่คนเดียวในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และขี่รถจักรยานยนต์มาทำงานในโรงงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่โรงงานกับหอพัก และไม่ได้ไปทำงานตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. 63 โดยช่วงที่ออกจากงานถึงเดินทางกลับเมียนมา (11-23 มิ.ย. 63) ผู้ป่วยอยู่ที่พักทุกวัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. 63 โรงงานมีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรค โดยวัดอุณหภูมิทุกคนก่อนเข้าทำงานให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีจุดจ่ายแอลกอฮอล์ล้างมือ เน้นรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล มีการทำความสะอาดโรงอาหารและมีแผงกั้นบนโต๊ะอาหาร และจากข้อมูลการเจ็บป่วยของคนงานในโรงงานช่วง พ.ค.-มิ.ย. 63 พบว่าไม่มีคนงานที่มีอาการป่วยตามนิยามของโควิด 19 หรือการเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน
หลังจากได้รับรายงานในพื้นที่ กรมควบคุมโรคได้ส่งทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) จากสคร.5 จ.ราชบุรี ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ทำการสอบสวนโรคในพื้นที่หอพักและโรงงาน เพื่อค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยง และตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อนในพื้นที่ และให้คำแนะนำในการป้องกันควบคุมโรคกับทางหอพักและโรงงานด้วย นอกจากนี้ สคร.2 จ.พิษณุโลก ยังได้ประสานเพื่อตรวจสอบข้อมูลกับทางด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด 2 จ.ตาก เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านในการสอบสวนโรค
นพ.สุวรรณชัย ขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนดำเนินมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง การ์ดอย่าตก เนื่องจากอาจมีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการในชุมชน แต่ที่ประเทศไทยไม่มีการระบาด เพราะทุกคนยังคงร่วมกันเคร่งครัดมาตรการป้องกันโรคดังกล่าวอย่างจริงจัง ทั้งการสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล รวมถึงการช่วยกันสอดส่องดูแลและแจ้งข่าวกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อเฝ้าระวังร่วมกัน ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง และตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางตามจุดผ่านเข้าออกพรมแดนของประเทศอย่างเข้มข้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทย ที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Workpoint