วันนี้ 18 กันยายน 2563 มีรายงานจาก นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และ ผศ.นพ.พจน์ อินทลาภาพร โรงพยาบาลราชวิถี ได้ออกมาแถลงข่าวแจ้งพบผู้เสียชีวิตโควิดรายที่ 59 ของไทย โดยมีการชี้แจงไทม์ไลน์การเดินทางและอาการป่วยอย่างละเอียด
ผู้สื่อข่าวอีจัน รายงานไทม์ไลน์ผู้เสียชีวิตโควิดรายที่ 59 ของประเทศไทย โดยผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย อายุ 54 ปี อาชีพเป็นล่าม ทำงานอยู่ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย มีอาการไม่สบายตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 โดยเริ่มจากป่วยเล็กน้อยจนกระทั่งหนักในช่วงเดือน สิงหาคม และถูกนำส่งประเทศไทยด้วยอาการทรุดตั้งแต่ 3-18 ก.ย.63 โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้
21 ก.ค.63 ได้รับการตรวจที่ประเทศซาอุฯ ตรวจเจอเชื้อโควิด-19 ร่วมกับมีภาวะวิกฤตทางระบบการหายใจ ขณะนั้นยังไม่ได้แอดมิท รักษาตัวอยู่ที่บ้าน
26 ก.ค.63 มีอาการมากขึ้น หายใจไม่ทั่วท้อง มีไข้ ไอ ก็เลยไปโรงพยาบาล ได้รับการแอดมิท รักษาตัวในโรงพยาบาล King Fahad Medical City
นอนที่โรงพยาบาลได้ประมาณ 4-5 วัน อาการแย่ลง
31 ก.ค.63 ต้องย้ายจากวอร์ดสามัญไปที่ ICU
10 ส.ค.63 คนไข้มีอาการหยุดหายใจ ต้องปั๊มหัวใจ และใส่ท่อช่วยหายใจ
นี่คือรายละเอียดที่ได้รับรายงานจากประเทศซาอุดีอาระเบีย
ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของผู้ป่วยรายนี้
ผลเป็นบวกครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 21 ก.ค.63
ผลเป็นบวกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 ส.ค.63
ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทยมีการตรวจซ้ำอีกครั้ง
ผลเป็นลบครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 ส.ค.63
ผลเป็นลบครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.63
หลังจากนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้รับการประสานงานจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ขอส่งตัวผู้ป่วยกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย
1 ก.ย.63 เวลา 20.30 น. เดินทางออกจากกรุงริยาด โดย Air Ambulance พร้อมทีมแพทย์พยาบาลอินโดนีเซีย เนื่องจากไม่มีทีมแพทย์ไทยอยู่ที่นั่น ขณะที่นำส่ง แพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจ ใช้เวลาเดินทาง 10 กว่าชั่วโมง
เวลา23.30 น. รถพยาบาลชั้นสูง พร้อมอุปกรณ์ ทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่กู้ชีพเดินทางออกจากโรงพยาบาลราชวิถีไปยังสนามบินดอนเมือง
ถึงไทย วันที่ 2 ก.ย.63 เวลา 01.30 น.
ทีมแพทย์ศูนย์กู้ชีพนเรนทร รพ.ราชวิถี รับผู้ป่วยจาก Air Ambulance ด้วย Patient Isolation Transport Unit พร้อมติดตามอาการและสัญญาณชีพตลอดการนำส่ง
3 ก.ย.63 เวลา 08.00 น. ผู้ป่วยมีการหอบเหนื่อยเหนื่อยมากขึ้น แพทย์จึงใส่ท่อช่วยหายใจ และได้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำ
ผู้ป่วยรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี ตั้งแต่วันที่ 3-18 ก.ย.63 อาการทรงๆทรุดๆมาตลอด
ผศ.นพ.พจน์ อินทลาภาพร โรงพยาบาลราชวิถี เผยว่า ประเมินอาการช่วงแรก ผู้ป่วยมีอาการปอดอัดเสบจากแบคทีเรีย ดื้อยา มีอาการแทรกซ้อน ที่เป็นอาการเดิมก่อนส่งตัวกลับมาไทย ระบบทางเดินหายใจและปอดด้านขวามีเงาทึบ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ป่วยมีภาวะปอดอักเสบจากโควิด-19
ช่วงที่รักษา ก่อนเดินทางเข้ามาในไทย ผู้มีป่วยมีหัวใจหยุดเต้นไป 1 ครั้ง ก็ได้ทำการปั๊มหัวใจ อาจจะมีผลทำให้ กล้ามเนื้อหัวใจมีการบาดเจ็บ เมื่อดูแลต่อเนื่องจนถึงไทย ตรวจคลื่นหัวใจ มีความผิดปกติอยู่ มีความเสี่ยงที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นได้
ผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง น้ำตาลในเลือดสูงถึง 100-140 เมื่อมีการติดเชื้อซ้ำจากแบคทีเรียจะมีความยุ่งยากในการรักษา แพทย์ให้ยาปฏิชีวนะหลายขนาด มีการตอบสนองไม่ดี
อีกทั้งผู้ป่วยยังมีอาการปอดอักเสบต่อเนื่อง ทำให้สภาพร่างกายทรุดลงอย่างรวดเร็ว ร่วมกับการทำงานของอวัยวะอื่นล้มเหลว ระบบเลือด ไตวายจากการติดเชื้อ ปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน จึงทำให้ผู้เสียชีวิต
จากการตรวจสอบ ไม่พบคนที่เกี่ยวข้องผู้ป่วยรายนี้เพิ่มเติม การควบคุมโรคเป็นไปตามมาตรฐาน ดังนั้น ผู้ป่วยรายนี้ จึงนับเป็นผู้เสียชีวิตในไทยรายที่ 59
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก