กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันนี้เมื่อช่วงเช้าเวลา 07.00 น. ของวันที่ 23 เมษายน 2564 วันนี้พบจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งถึง 2,070 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 50,183 ราย
แถลงศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ( 23 เม.ย. 64 ) ทราบเป็นผู้ป่วยรายใหม่ เพิ่ม 2,070 ราย (สะสม 50,183 ราย) กลับบ้านแล้ว 30,189 ราย (+341 ราย) ยังรักษาใน รพ. 19,873 ราย เสียชีวิต 121 ราย (+4 รายจากเมื่อวาน)
สำหรับรายละเอียดของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย นั้น
รายที่ 118 ชายไทย อายุ 72 ปีที่อยู่ กทม. ปฏิเสธโรคประจำตัว
- วันที่ 9-12 เมษายน ไปที่จังหวัดภูเก็ต
- วันที่ 13 เมษายน มีไข้ไอเจ็บคอและถ่ายเหลว
- วันที่ 17 เมษายน อาการไม่ดีขึ้นไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลพบปอดอักเสบ
- วันที่ 18 เมษายน ผลพบเชื้อเหนื่อยหอบ แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในวันที่ 20 เมษายนเวลา 18.29 น.
รายที่ 119 ชายไทย อายุ 74 ปี ที่อยู่จังหวัดสงขลา
- มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- วันที่ 6 เมษายน สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
- วันที่ 10 เมษายน พบเชื้อ
- วันที่ 11 เมษายน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
- วันที่ 15 เมษายน เอกซเรย์พบปอดอักเสบมากขึ้น
- วันที่ 22 เมษายน หัวใจหยุดเต้นทำการกู้ชีพ และ เสียชีวิตในเวลา 05.15 น. ในวันเดียวกัน
รายที่ 120 หญิงไทย อายุ 29 ปีที่อยู่จังหวัดสมุทรปราการ
- โรคประจำตัวโรคอ้วน
- วันที่ 10 เมษายน สัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า
- วันที่ 12 เมษายน ไอมีเสมหะหอบเหนื่อย
- วันที่ 16 เมษายน ตรวจพบเชื้อ
- วันที่ 18 เมษายน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลต่อมามีภาวะหัวใจล้มเหลวปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงและเสียชีวิตในวันที่ 22 เมษายนเวลา 06.45 น
รายที่ 121 ชายไทย อายุ 83 ปี ที่อยู่จังหวัดสมุทรปราการ
- โรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตเรื้อรัง และ โรคหัวใจ
- มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
- วันที่ 8 เมษายน เข้ารับการตรวจหาเชื้อมีอาการไอมีเสมหะ
- วันที่ 9 เมษายน ค้นพบเชื้อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
- วันที่ 10 เมษายน อาการไม่ดีขึ้น พบปอดอักเสบรุนแรงต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตในวันที่ 22 เมษายนเวลา 00. 28 น.
สำหรับวิธีป้องกันเบื้องต้นนั้น ต้องกินร้อน ใช้ช้อนเรา และหมั่นล้างมือให้สะอาด เมื่อต้องออกไปข้างนอกอย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย งดไปในพื้นที่เสี่ยง เลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีไข้ ไอ จาม เจ็บคอ เดินทางโดยรถส่วนตัวเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์ (บัตรทอง ประกันสังคม ราชการ) สอบถามเพิ่มเติม : 1330 สายด่วน สปสช. หากมีอาการที่น่าสงสัยให้รีบไปพบแพทย์ทันที!