รายงานสถานการณ์ ประจำวันเสาร์ ที่ 12 มิถุนายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ 3,277 ราย โดยเป็นผู้ป่วยจากเรือนจำ 892 ราย ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังระบบบริการฯ 1,770 ราย การค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 586ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 29 ราย ด้วยกัน ส่วนผู้เสียชีวิต 29 ราย ทำให้ขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,337 ราย
สำหรับยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมระรอกวันที่ 1 เมษายน 2564 อยู่ที่ 164,242 ราย หายป่วยแล้ว 122,845 ราย รักษาหายวันนี้ 5,273 ราย อยู่ในระหว่างการรักษา 41,403 ราย มีผู้ได้รับวัคซีนแล้ว สะสม 5,975,070 โดส เมื่อพิจารณาสถานการณ์ทั่วโลกแล้ว ไทยอยู่ในลำดับที่ 79 มีผู้ติดเชื้อรวม 193,105 ราย
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า เมื่อ 12 มิ.ย.64 เวลา 09.30 น. พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห.และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปล.กห.ได้ประชุมร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อติดตามการสนับสนุนรัฐบาลในการขับเคลื่อนแก้ปัญหาโควิด 19 และการช่วยเหลือประชาชน
ภาพรวม ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมา กห.โดยทุกเหล่าทัพ ยังคงทำงานร่วมกับ สธ.และหน่วยงานต่างๆอย่างใกล้ชิด สนับสนุนการแก้ปัญหาเร่งด่วนและขับเคลื่อนบริหารจัดการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกำลังพล บุคลากรทางการแพทย์ ยานพาหนะและสิ่งอุปกรณ์ เสริมเพิ่มเข้าไปช่วยจัดตั้งและบริหารจัดการโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกว่า 6,500 รายเข้ารับการรักษา การตรวจคัดกรองเชิงรุกและเก็บเชื้อในพื้นที่กลุ่มเสี่ยง การสนับสนุนจัดตั้ง บก.ควบคุมพื้นที่แพร่ระบาด เช่น แค้มป์คนงาน โรงงานและตลาดชุมชน การสนับสนุนจัดกำลังพลคัดกรองโรค ณ สนามบิน รวมทั้งกรมราชทัณฑ์แก้ปัญหาเรือนจำที่พบการติดเชื้อ การบริหารจัดการสถานกักควบคุมโรคแห่งรัฐ (15 SQ และ 142 ASQ ) การจัดรถครัวสนามประกอบอาหารช่วยเหลือประชาชนกว่า 300 ชุมชนในพื้นที่ที่พบติดเชื้อจำนวนมาก รวมทั้งการเข้าไปช่วยสนับสนุนพ่นยาฆ่าเชื้อในโรงเรียนก่อนเปิดเทอมกว่า 350 แห่งและสนับสนุนฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปพร้อมๆกันทั่วประเทศแล้วกว่า 24,000 คน
รมช.กห. ได้ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และรมว.กห. ได้ขอบคุณกำลังพลทุกเหล่าทัพที่สนับสนุนส่วนราชการต่างๆรับมือกับวิกฤตโควิด-19 และเข้าไปดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยขอให้ดำรงความต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์จะปกติ พร้อมแสดงความห่วงใยทหารที่จะเข้าประจำการพร้อมกันทุกเหล่าทัพใน 1 ก.ค.64 โดยขอให้มีมาตรการควบคุมโรคในการฝึกและประสาน สธ.จัดหาวัคซีนรองรับทหารที่เข้าใหม่และครูฝึก ให้เพียงพอสำหรับเกิดภูมิคุ้มกันเป็นส่วนรวมในการปฏิบัติงานร่วมกัน
นอกจากนี้ พล.อ.ชัยชาญ ยังได้กำชับ ขอให้ทุกเหล่าทัพและตำรวจ เสริมกำลังเข้าไปสนับสนุน กรุงเทพมหานคร ตามที่ร้องขอ ในการควบคุมการแพร่ระบาดเป็นพื้นที่ทั้งใน กทม.และปริมณฑล ที่ยังพบกระจายในหลายคลัสเตอร์ โดยเฉพาะแคมป์คนงานที่มีกว่า 400 แห่ง ที่จำเป็นต้องจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ( EOC ) ควบคุมการปฏิบัติเข้มในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด เพื่อจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้า-ออก และนำเข้าสู่การรักษาในระบบ พร้อมทั้งขอให้ดำรงความต่อเนื่องสนับสนุนการบริจาคโลหิตให้กับโรงพยาบาลต่างๆที่ยังพบการขาดแคลน เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยรอการรักษาอีกจำนวนมาก
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ศบค.