วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2567
SHARE

สถานการณ์ ประจำวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564

โพสต์โดย Nabi เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2564 - 14:05

ยอดผู้ติดเชื้อ CV-19 วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2564 รวม 7,679 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 6,864 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 272 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 536 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 7 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,906,579 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 8,482 ราย หายป่วยสะสม 1,791,037 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 97,585 ราย เสียชีวิต 56 ราย

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 2 พ.ย. 2564) รวม 77,014,092 โดส ใน 77 จังหวัด ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 787,976 โดส

  • เข็มที่ 1 : 267,117 ราย
  • เข็มที่ 2 : 485,778 ราย
  • เข็มที่ 3 : 35,081 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 42,815,600 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 31,730,365 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 2,468,127 ราย แหล่งข้อมูล : MOPH-IC

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับเครือข่าย ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงแรงงาน (รง.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ดส.) สำนักงบประมาณ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมให้คนไทยทุกกลุ่มวัย มีกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น และลดพฤติกรรมเนือยนิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ CV-19

นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารส่งเสริมกิจกรรมทางกาย ที่กระทรวงสาธารณสุขว่า ประเทศไทยได้มุ่งเน้นในประเด็นเรื่องโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เนื่องจากในแต่ละปี กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 36 ล้านคนทั่วโลก หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของสาเหตุการตายทั้งหมด

นพ.บัญชา กล่าวว่า การมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ ได้ถูกกำหนดให้เป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับที่ 4 ของสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรโลก เนื่องจากการมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอนำไปสู่การเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยพบว่า การมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอส่งผลให้เกิดการเสียชีวิต 3.2 ล้านคนต่อปีของทั้งโลก และคนไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังสูงถึงร้อยละ 71 ของการเสียชีวิตทั้งหมด และก่อให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายทางสุขภาพ

"จากข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้สำรวจระดับกิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่งในช่วง 10 ปี พบว่าประชากรไทยมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ และระยะเวลาการมีพฤติกรรมเนือยนิ่งในแต่ละวันไม่รวมเวลานอนหลับนั้น สูงเกือบ 14 ชั่วโมงต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น" นพ.บัญชา กล่าว

รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา กรมอนามัย ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้จัดทำแผนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย พ.ศ.2561-2573 ที่มีเป้าหมายให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉงด้วยกิจกรรมทางกายในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่

  • 1.การส่งเสริมกิจกรรมทางกายประชาชนทุกกลุ่มวัย
  • 2.การส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย
  • 3.การพัฒนาระบบสนับสนุนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอตามแผนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย (พ.ศ.2561-2573)

"ซึ่งได้จัดทำโครงการขับเคลื่อนแผนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย พ.ศ.2561-2573 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มท., ศธ., กก., พม., ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (TPAK) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหิดล ในการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้และความเข้าใจเรื่องกิจกรรมทางกายให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มวัยผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แพลตฟอร์ม ก้าวท้าใจ, เฟซบุ๊ก, ยูทูบ, แบนเนอร์ บนเว็บไซต์, ไลน์,ไลฟ์ สตรีมมิ่ง รวมทั้งลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ในโรงเรียน ชุมชน และโรงงาน" นพ.บัญชา กล่าว

นอกจากนี้ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ยังได้ดำเนินการขับเคลื่อนระบบสนับสนุนการส่งเสริมกิจกรรมทางกายทั้ง 5 ระบบ ได้แก่ ระบบการสร้างองค์ความรู้ และวิจัยกิจกรรมทางกาย ระบบพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย ระบบพัฒนาศักยภาพบุคลากร ระบบการสื่อสารรณรงค์ และระบบติดตามการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย

"ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนแผนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มก้าวท้าใจ ที่พัฒนาเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการออกกำลังกายและความรอบรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้อง รวมถึงส่งเสริมให้บุคลากรสาธารณสุขเป็นต้นแบบด้านสุขภาพ โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการส่งเสริมการออกกำลังกาย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 3,255,743 คน โดยพบว่าสัดส่วนของผู้มีดัชนีมวลกาย หรือบีเอ็มไอ (BMI) ปกติเพิ่มขึ้น ตามระดับการมีกิจกรรมทางกายที่เพิ่มขึ้น คือ ผู้มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ มี BMI ปกติ ร้อยละ 38.89 ผู้มีกิจกรรมทางกายเพียงพอ มี BMI ปกติร้อยละ 41.60 และผู้มีกิจกรรมทางกายสูง มี BMI ปกติร้อยละ 43.37

นอกจากนี้ กิจกรรมนี้ยังสามารถสร้างกระบวนการสร้างสุขภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และนำไปขับเคลื่อนสุขภาพวัยทำงานได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน ร้อยละ 92 จากข้อมูลพบว่า กลุ่มวัยทำงานที่มีทั้งหมด 38 ล้านคน มีเพียงร้อยละ 10 ที่เข้าร่วมกิจกรรมก้าวท้าใจ ซึ่งยังสามารถขับเคลื่อนกิจกรรมก้าวท้าใจให้ขยายได้อีกจำนวนมากต่อไป" นพ.บัญชา กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรู้สู้โควิด , สสส.



แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

บริการของเรา

Advertising

พื้นที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Web Design

ออกแบบเว็บไซต์ ครบจบในที่เดียว ทั้ง FrontEnd และ BackEnd ด้วยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 15 ปี

Web Application

ไม่ว่าจะธุรกิจใดให้ระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จากรูปแบบเดิมๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Online

VDO Creator

บริการออกแบบ และ จัดทำ Presentation ShowCase Review สินค้า TVC หรือ Viral Clip

เราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy)
About Us | Advertising
Join With Us | Contact
Privacy Policy | Terms of Service
Corrections Policy | DMCA Copyrights Disclaimer
Ethics Policy | Fact-Checking Policy
Editorial team information | Ownership and Funding Info
ติดต่อลงโฆษณา: 0880-900-800, อีเมล์: ads@jarm.com
แนะนำติชม/ฝากข่าวประชาสัมพันธ์: info@jarm.com