หลังจาก วันที่ 10 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา พบว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำ (แดน4) ป่วยด้วยอาการ ไข้ หนาวสั่น มีน้ำมูก เจ็บคอ และได้เข้ารับบริการในสถานพยาบาลของเรือนจำจังหวัดเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำการสุ่มตรวจ ATK ผู้ต้องขังจำนวน 505 คน ผลเป็นบวก จำนวน 259 คน ผลเป็นลบ 246 คน

ต่อมาวันที่ 12 ธ.ค.64 สาธารณสุขจังหวัด ได้เข้าดำเนินการสอบสวนโรคตามกระบวนการ และดำเนินการปูพรมตรวจ ATK ผู้ต้องขัง (แดน4) ทุกราย โดยจังหวัดพิษณุโลกได้ประสานขอรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานมาช่วยตรวจคัดกรอง จากการตรวจตั้งแต่วันที่ 10 จนถึงวันนี้ จำนวน 1,954 ราย พบผลเป็นบวก จำนวน 1,501 ราย ผลเป็นลบ จำนวน 453 ราย ผู้ต้องขังที่มีผลตรวจเป็นบวกได้รับยาทันทีครบทุกราย และผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นลบได้ดำเนินการคัดแยกเพื่อเฝ้าดูสังเกตอาการ

ล่าสุดวันนี้ (13 ธ.ค.64) โรงพยาบาลวังทอง เข้าไปตรวจ ATK ผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกเพิ่ม การสืบสวนโรค สันนิษฐานว่า อาจจะแพร่ระบาดจาก
- ทันตแพทย์ซึ่งมาจากภายนอกเรือนจำเข้ามาทำการรักษา
- เกิดจากเจ้าหน้าที่ ผู้คุมซึ่งได้ดำเนินการตรวจ ATK ก่อนเข้าเรือนจำทุกราย และได้ปฏิบัติตามมาตราการการป้องกันการแพร่ระบาดของกรมราชทัณฑ์
- การขนส่งอาหารภายในเรือนจำ ซึ่งได้มีการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ก่อนเข้าเรือนจำทุกครั้ง
จังหวัดและเรือนจำจังหวัดได้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุฯ การแพร่ระบาดเกิดภายในเรือนจำ จากการที่เข้าควบคุมและคัดกรองได้อย่างรวดเร็วประกอบกับเรือนจำเป็นสถานที่ปิด จึงทำให้ไม่เกิดการแพร่ระบาดไปในวงกว้าง

เบื้องต้น สสจ.พิษณุโลก ได้รับการอนุมัติจากปลัดกระทรวง สธ. ในการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ และชุดตรวจ ATK มาเพิ่มสำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำ เป็นที่เรียบร้อย
และวันนี้ เวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมบุณยวงศ์วิโรจน์ ชั้น 5 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก โดย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัด , นายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก , นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผอ.รพ.พุทธชินราช และผู้บัญชาการเรือนจังหวัด พล. จะแถลงข่าวคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นนี้ค่ะ


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก อีจัน