จากกรณี ที่มีกระแสข่าวออกมาว่า จะมีการเตรียมเสนอให้ถอดหน้ากาก ในบางพื้นที่ในสวนสาธารณะ และ สามารถจัดคอนเสิร์ต ซึ่งทาง สธ. แจ้งมาว่า มีรายละเอียด และขั้นตอน ที่ต้องพิจารณา ด้านปลัด สธ. ยืนยันว่าไม่ได้จะเสนอถอดหน้ากากอนามัยในสวนสาธารณะ ต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พรุ่งนี้ (18 มี.ค. 65 ) แต่จะพิจารณาหลังประกาศให้โควิด เป็น โรคประจำถิ่น
โดย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จะมีการนำเรียนต่อ ศบค. เรื่องแผนปรับโควิด-19 ในช่วง Endemic Approach ตามที่ สธ.ได้วางแผนไว้ เนื่องจากการจะเข้าสู่ ‘โรคประจำถิ่น’ จะมีผลต่อการควบคุมโรค การรักษา , สังคม และกฎหมาย ดังนั้น ศบค.จะต้องรับทราบและดูแลเรื่องสังคมกับกฎหมาย ส่วนเรื่องการแพทย์ได้รับการสนับสนุนให้การแพทย์นำอยู่แล้ว โดยเราต้องพิจารณาทางสังคมและการแพทย์ให้สมดุลกัน
เนื่องจากเราออกกฎหมายหลายสิบฉบับในช่วงการระบาด ฉะนั้นต้องปรับกฎหมายเข้าสู่ปกติ เช่น พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทางรัฐบาลเตรียมการปรับเป็น พ.ร.บ.โรคติดต่อในภาวะฉุกเฉิน โดยเตรียมไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อให้สอดรับกับแผนที่จะทำให้โควิดเป็น Post Pandemic
“แม้ 4 เดือน ในช่วง 3 เฟส บวก 1 นี้ เราจะทำให้เกิดเป็น Post Pandemic ที่ไม่มีการระบาดใหญ่อยู่ในช่วงปลอดภัย ส่วนการทำให้เป็น Endemic เราอาจต้องดูการประกาศจากองค์การอนามัยโลก ทั้งนี้ทั้งหมดต้องอยู่ในเงื่อนไขว่า ไวรัสไม่กลายพันธุ์รุนแรงเข้ามาอีก โดยต้องทำอย่างมีขั้นตอน (สเต็ป) ค่อยๆ ทำ
ไม่ใช่ว่า 4 เดือนแล้ว จะเปิดหน้ากาก มีกิจกรรมสังคมเต็มที่ แต่เราตั้งเป้าหมายว่า สวนสาธารณะจะเป็นแห่งแรกที่ไม่ต้องสวมหน้ากาก เพื่อให้ชีวิตเป็นปกติ แต่ยังสนับสนุนให้คนสวมหน้ากากอยู่ โดยเฉพาะคนป่วย แต่คนทั่วไปก็จะผ่อนคลายได้บ้าง ส่วนกิจกรรมรวมกลุ่มก็อาจผ่อนคลายมากขึ้น เช่น กีฬา ฟุตบอล คอนเสิร์ต แต่ต้องมีมาตรการป้องกันคลัสเตอร์ใหญ่” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว