หลังจากที่มีการประกาศผ่อนคลายสวมหน้ากากอนามัย โดยความสมัครใจ แต่ก็ยังมีหลายคนเลือกที่จะสวมแมสก์ต่อ แม้จะสามารถถอดออกได้แล้ว เนื่องจากยังคงกลัวโรคโควิด-19 โดยเฉพาะกับช่วงนี้ ที่พบสายพันธุ์ใหม่ แพร่ระบาดในแถบ อินเดีย อังกฤษและสหรัฐอเมริกา

ล่าสุด(4 ก.ค. 65) หมอมนูญ หรือ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ถึงความสำคัญในการสวมหน้ากากอนามัย
โดยระบุว่า "คนที่ติดโรคโควิดระลอกใหม่นี้ เท่าที่ผมสังเกตส่วนใหญ่ เป็นคนที่ระมัดระวังตัวป้องกันตัวเองเต็มที่ และเป็นคนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่มีประสิทธิภาพสูงครบโดส รวมทั้งได้เข็มกระตุ้น เช่นได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 3 เข็ม วัคซีนแอสตร้าเซเนกา 2 เข็ม

ตามด้วยวัคซีน mRNA 2 เข็ม หรือวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยแอสตร้าเซเนกา 1 เข็มและโมเดอร์นาอีก 2 เข็ม แต่ก็ยังติดเชื้อ แสดงว่าเชื้อนี้แพร่กระจายเร็ว และหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนได้มากกว่าสายพันธุ์เดิมก่อนหน้านี้
แต่โชคดีคนกลุ่มที่ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพดี และได้รับเข็มกระตุ้น จะมีอาการน้อยมาก หายได้เอง และส่วนใหญ่ไม่มีอาการของลองโควิด เราไม่สามารถพึ่งวัคซีนรุ่นปัจจุบัน ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด จำเป็นต้องพึ่งมาตรการส่วนบุคคล โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย

- ถ้าคนติดเชื้อไม่ใส่หน้ากากอนามัย คนปกติใส่หน้ากาก จะลดการรับเชื้อได้ร้อยละ 30
- ถ้าคนติดเชื้อใส่หน้ากากอนามัย คนปกติไม่ได้ใส่หน้ากาก จะลดการรับเชื้อได้ร้อยละ 95
- ถ้าทั้งคนติดเชื้อ และคนปกติ ต่างใส่หน้ากากอนามัย จะลดการรับเชื้อได้ร้อยละ 98.5 (ดูรูป)

ขณะนี้เป็นเรื่องจำเป็น ที่ทุกคนควรใส่หน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในที่สาธารณะผู้คนแออัด อากาศปิด ถ่ายเทไม่ดี ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ในอนาคตอันใกล้ เมื่อเรามีวัคซีนรุ่นใหม่ ที่สามารถครอบคลุมไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4, BA.5 เราอาจจะพึ่งวัคซีนรุ่นใหม่ ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19"

ขอบคุณ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC