มอริเชียสประกาศภาวะฉุกเฉิน ภายหลังเกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันเกิดอุบัติเหตุ จนน้ำมันรั่วไหลลงสู่มหาสมุทรอินเดีย สร้างความเสียหายต่อธรรมชาติใต้ทะเลอย่างถาวร
เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา นายประวินด์ กูมาร์ จักนาอุท นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐมอริเชียส ซึ่งตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดียตะวันตกเฉียงใต้ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อม ภายหลังเกิดเหตุเรือสัญชาติญี่ปุ่น เกยตื้นบริเวณปอนเต เดอนี พื้นที่ที่รัฐบาลมอริเชียสประกาศให้เป็นพื้นที่ฟื้นฟูตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. จนเป็นเหตุให้น้ำมันรั่วไหลทะลักลงสู่ท้องทะเล
นายกรัฐมนตรีเล่าว่าเหตุดังกล่าวเกิดมาจากเรือ เอ็มวี วาคาชิโอะ ซึ่งบรรทุกเชื้อเพลิงน้ำมันหนักกว่า 3,600 ตัน แล่นมาบริเวณจุดเกิดเหตุ ได้เกิดรอยร้าวขึ้นตรงลำเรือจนน้ำมันรั่วไหลออกมาเป็นจำนวนมหาศาล เบื้องต้นทางรัฐบาลมอริเชียส ได้ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือจากฝรั่งเศสแล้ว โดยกล่าวว่าการรั่วไหลของน้ำมันในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 1.3 ล้านคนที่หวังพึ่งธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นรายได้เลี้ยงชีพเป็นอย่างมาก เพราะยังอยู่ในช่วงซบเซาเนื่องจากโควิดระบาด ซ้ำยังต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้อีกเป็นคำรบสอง
ในโซเชียลมิเดียก็ได้มีการแชร์คลิปซึ่งเผยให้เห็นน้ำมันที่รั่วไหลจากเรือดังกล่าว แพร่กระจายอย่างรวดเร็วสู่มหาสมุทรที่ดูแล้วชวนให้หดหู่ใจเป็นอย่างมาก ชายหาดมีแต่น้ำมันดำเมื่อมจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงการแยกชั้นของน้ำมันกับน้ำทะเล ส่วนการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงนั้นทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัยหรือความปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องการกู้ภัยสัตว์ทะเลและการหยุดยั้งการรั่วไหลของน้ำมันนั้นตกอยู่ในภาวะตึงเครียด เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจเป็นชนวนที่ทำให้การฟื้นฟูแนวปะการังและธรรมชาติในทะเลนั้น เป็นไปไม่ได้อีกตลอดกาล...
ขอบคุณข้อมูลจาก: SBS , World of Buzz