เหล่าพนักงานเงินเดือนหลายคนต่างต้องเจอกับปัญหาเรื่องของการแบ่งเวลา ทั้งเวลางานและเวลาให้ครอบครัว แต่แน่นอนว่าครอบครัวต้องมาก่อนเหนือสิ่งอื่นใด ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทหลายแห่งรับทราบเป็นอย่างดี
แต่ไม่ใช่กับบริษัทแห่งหนึ่งในซูโจว มณฑลเจียงซูของจีน ที่กลับมองไม่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้และสั่งไล่ออกนายจาง พนักงานชายคนหนึ่งไป ทั้งที่เขาขอหยุดไปเพื่อจะไปดูใจลูกซึ่งป่วยสาหัสอยู่ที่โรงพยาบาล โดยขณะที่ทำงานอยู่นั้น จางได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลว่าลูกชายเขาป่วยรุนแรง และรักษาตัวอยู่ที่แผนกฉุกเฉินเนื่องจากมีอาการไม่หายใจ
จางได้ยื่นคำร้องของลาหยุดในวันเสาร์ และเมื่อเขากลับมาทำงานวันจันทร์แล้ว จางกลับได้รับจดหมายเลิกจ้างและเชิญให้ออกจากงาน โดยในจดหมายดังกล่าวที่ออกให้กับเขาระบุว่า จางได้ละเมิดกฎบริษัทที่ได้ลาหยุดงานติดต่อกัน 3 วันโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนจางนั้นได้เล่าว่าก่อนที่จะลาหยุดไป เขาได้เซ็นตกลงกับทางบริษัทก่อนหน้านั้นแล้วเพื่อที่จะไปดูแลลูกชาย แต่พอกลับมาทำงานดันพบว่าข้อตกลงถูกเปลี่ยนไปเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว "บริษัทขอไม่ทำตามข้อตกลงอีกต่อไป และผมถูกขอให้ออกจากบริษัท ผมจะเสียงานนี้ไปไม่ได้ ผมต้องหาเงินมาเป็นค่ารักษาให้ลูก" จางกล่าวด้วยความกังวลใจ
อีกทั้งเมื่อจางนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับหัวหน้างาน เขาดันได้คำตอบมาว่าหัวหน้างานไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องนี้เมื่อมันมีเรื่องสัญญามาเกี่ยวข้อง ตัวเขาได้แต่ปฏิบัติตามกฎของบริษัทเท่านั้น เรื่องราวของจางเริ่มเป็นกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์มากขึ้น จนมีทนายาอาสามากมายขอเข้ามาช่วยเหลือเขา และแนะนำให้นายจางขออนุญาโตตุลาการด้านแรงงาน เนื่องจากสามารถให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายได้ ทั้งนี้ ลูกชายของนายจางป่วยเป็นเนื้องอกก้านสมอง...
ขอบคุณข้อมูลจาก: Oriental Daily, World of Buzz