นักโบราณคดีอิสราเอล พบ ซากมหาวิหารโรมัน อายุราว 2,000 ปี ตัวห้องโถงล้อมรอบด้วยเสาหินอ่อน ทั้งนี้วิหารดังกล่าว ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในปี 363
สำนักข่าวซินหัวไทย รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ (31 พ.ค.) องค์การโบราณวัตถุอิสราเอล (IAA) เปิดเผยว่าคณะนักโบราณคดีอิสราเอลค้นพบซากมหาวิหารโรมันสุดงดงามและหายากอายุเก่าแก่ราว 2,000 ปี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยขุดพบในอิสราเอล ณ อุทยานแห่งชาติในเมืองอัชเคลอนทางตะวันตกเฉียงใต้
“มหาวิหารแห่งนี้ก่อตั้งโดยเฮโรดมหาราช (Herod The Great) ซึ่งแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งบ่งชี้ว่าครอบครัวของพระองค์มาจากเมืองอัชเคลอน” องค์การฯ ระบุ
อาคารมหาวิหารขนาดใหญ่คลุมด้วยหลังคา แบ่งออกเป็นโถงส่วนกลางและโถงด้านข้างสองห้อง ตัวห้องโถงล้อมรอบด้วยเสาหินอ่อนและยอดเสาสูงประมาณ 13 เมตรเรียงเป็นทิวแถว ซึ่งทำหน้าที่รองรับหลังคาของอาคาร
องค์การฯ ระบุว่าพื้นและผนังของโถงดังกล่าวสร้างด้วยหินอ่อน โดยมีการค้นพบวัสดุหินอ่อน 200 ชิ้น ที่มีน้ำหนักหลายร้อยตันบริเวณมหาวิหาร นอกจากนั้นคณะนักโบราณคดียังค้นพบโรงละครโบราณ รูปปั้น และเหรียญโรมันด้วย ทั้งนี้ มหาวิหารข้างต้นได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในปี 363 โดยผลกระทบของคลื่นสั่นสะเทือนสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากพื้นของอาคาร
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวซินหัวไทย
