ผลการศึกษาวิจัยเผย ชนเผ่าพื้นเมืองแอมะซอน มิใช่ตัวต้นเหตุทำทรัพยากรธรรมชาติในป่าซึ่งถือเป็น ปอดของโลก เสื่อมสลาย หรือทำให้สัตว์บางชนิดเสี่ยงสูญพันธุ์ ในระยะเวลากว่า 5,000 ปีที่อาศัยอยู่
สำนักข่าว BBC รายงานว่า งานวิจัยดังกล่าวซึ่งทำการศึกษาประวัติศาสตร์อันยาวนานของผืนป่าแอมะซอน เปิดเผยว่าชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้มานานนับพันปี ไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ป่าเสื่อมโทรม หรือเป็นต้นเหตุให้สัตว์บางชนิดเสี่ยงสูญพันธุ์เลยแม้แต่น้อย เพราะด้วยพวกเขาอาศัยอยู่ในป่าและดำเนินชีวิตอย่างสงบเงียบและรบกวนป่าได้ "น้อยที่สุด"
โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการวิจัยอยู่ที่เปรู ได้ทำการตรวจสอบสภาพหน้าดินเพื่อหาหลักฐานฟอสซิลด้วยกล้องจุลทรรศน์ที่มีผลกระทบต่อมนุษย์ และพบว่าดินดังกล่าว ไม่ปรากฏร่องรอยการทำไร่นา หรือเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญใดๆมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ดร.โดโลเรส ปิเปอร์โน จากสถาบันวิจัยเขตร้อนสมิธโซเนียน ในบัลบัว ประเทศปานามา ผู้เป็นหัวหน้างานวิจัยชิ้นนี้ ได้กล่าวว่าหลักฐานจากตัวอย่างดินข้างต้นนั้น สามารถเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการหล่อหลอมการอนุรักษ์สมัยใหม่ได้ และเผยความลับให้ได้รับรู้ว่า ชนเผ่าพื้นเมืองในสมัยก่อนนั้น มีวิธีการอย่างไรที่ดำรงชีวิตอยู่ในป่าได้โดยที่ยังคงไว้ซึ่งระบบนิเวศอันหลากหลาย ไม่เข้าไปรบกวนมันได้จนถึงปัจจุบัน
การค้นพบของ ดร.ปิเปอร์โน ในครั้งนี้ ยังสามารถบ่งบอกได้ว่า ภูมิทัศน์อันกว้างใหญ่ของผืนป่าแอมะซอนนั้น เกิดจากฝีมือของชนพื้นเมืองมากน้อยแค่ไหน ซึ่งนี่เป็นประเด็นถกเถียงกันในหมู่วิทยาศาสตร์มาเป็นเวลานานแล้ว เพราะงานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า ภูมิทัศน์ในป่าถูกทำลายจนเสื่อมโทรมลงเพราะชนพื้นเมือง กระทั่งการมาถึงของชาวยุโรปในอเมริกาใต้ แต่งานวิจัยล่าสุดของ ดร.โดโลเรส กลับตอกหน้างานวิจัยก่อนหน้านี้ทั้งหมดว่า ชนพื้นเมืองไม่ได้มีส่วนทำลายป่าฝนอันกว้างใหญ่นี้ให้เสื่อมโทรมลง กลับกันพวกเขาอาศัยอยู่อย่างสงบ ยั่งยืนและเคารพในธรรมชาติ หากแต่เป็นฝีมือมนุษย์ภายนอกทั้งนั้น
ส่วนหลักฐานชิ้นสำคัญที่เป็นตัวอย่างดินข้างต้นนั้น ดร.โดโลเรส อธิบายว่าเธอและทีมวิจัยได้เก็บมันมาจากแหล่งที่มา 3 แหล่งที่แตกต่างกัน พร้อมเงื่อนไขว่าห้ามใช้ดินที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ เพราะอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่เที่ยงตรงและอาจจะเป็นดินที่มากับน้ำท่วม ไม่ใช่ดินจริงๆ จากนั้นจึงใช้กระบวนการที่เรียกว่า "โบราณคดีพฤกษศาสตร์" สร้างภาพจำลองย้อนอดีตของตัวอย่างดินทั้งหมดไปในยุคก่อนประวัติศาสตร์ หรือราว 5,000 ปีที่ผ่านมา จนสรุปได้ว่า ชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในป่าแอมะซอนเป็นเวลากว่า 5,000 ปีนี้ อาศัยอยู่กันแบบยั่งยืนและรบกวนธรรมชาติน้อยที่สุด รวมถึงไม่ได้เป็นปัจจัยทำให้สัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ด้วย...
ขอบคุณข้อมูลจาก: BBC