ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลิ่วโจวได้ก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรม “หลัวซือเฝิ่น” ในฐานะนิคมอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ ซึ่งรวบรวมการผลิตอาหาร โลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซ การวิจัยและพัฒนาอาหาร ตลอดจนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไว้ในที่เดียว เพื่อผลักดันการบูรณาการหลัวซือเฝิ่นเข้ากับการท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์
ล่าสุด สำนักข่าวซินหัวไทย รายงานว่า คณะรัฐมนตรีจีนเผยแพร่รายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ระดับชาติชุดล่าสุด อันได้แก่วิธีการปฏิบัติและการแสดงออกทางวัฒนธรรม 185 รายการ โดยหนึ่งในนั้นคือกรรมวิธีการทำ ‘หลัวซือเฝิ่น’ หรือบะหมี่หอยขม อาหารท้องถิ่นชื่อดังของจีน
คณะรัฐมนตรีของจีนระบุว่ารายชื่อชุดล่าสุดลำดับที่ 5 นี้ ได้ทำให้รายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ทั้งหมดของจีนรวมอยู่ที่ 1,557 รายการ
หลัวซือเฝิ่นของเมืองหลิ่วโจว มีฉายาว่า “ทุเรียนฉบับบะหมี่” (durian of soup) เนื่องจากมีกลิ่นแรง โดยมีต้นกำเนิดมาจากเมืองหลิ่วโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน ประกอบด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวทำจากข้าวและน้ำซุปหอยหลัวซือรสชาติเผ็ดร้อน พร้อมด้วยส่วนผสมต่างๆ ได้แก่ หน่อไม้ดอง ถั่วฝักยาว ถั่วลิสง และฟองเต้าหู้
นอกจากหลัวซือเฝิ่นแล้ว กรรมวิธีการทำอาหารสไตล์ซาเซี่ยนจากมณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ระดับชาติในครั้งนี้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวซินหัวไทย