สองนักวิทยาศาสตร์ด้านระบบทางเดินหายใจของออสเตรเลียเดินหน้าพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แบบสเปรย์ฉีดจมูก

แดเนียลา ทราอินี ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแมคควอรี และพอล ธอร์ดาร์สัน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ (UNSW) ได้ร่วมมือกับเมด แลป (Medlab) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพในซิดนีย์ เพื่อค้นคว้าการใช้สเปรย์ฉีดจมูกรุ่นใหม่ ซึ่งจะถูกนำไปปรับใช้กับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA)

ทราอินีกล่าวว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอในปัจจุบันอย่างของไฟเซอร์และโมเดอร์นาใช้วิธีฉีดเข้าเส้นเลือดดำและมีข้อกำหนดเฉพาะด้านความเย็น แต่หากการศึกษาของพวกเขาประสบผลสำเร็จ วัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอตัวอื่นๆ อาจเปลี่ยนมาใช้วิธีสเปรย์ฉีดจมูก ซึ่งมีข้อดีมากมายอย่างไม่ต้องใช้บุคลากรเฉพาะทางและช่วยคนกลัวเข็ม

นอกจากนั้นทราอินีเผยความเป็นไปได้ว่าวัคซีนแบบสเปรย์ฉีดจมูกอาจไม่จำเป็นต้องเก็บโดยแช่เย็น ซึ่งจะเป็น ตัวเปลี่ยนเกม สำหรับชุมชนห่างไกลและประเทศกำลังพัฒนาที่มีไฟฟ้าจำกัด โดยนักวิทยาศาสตร์ทั้งสองชี้ว่าวัคซีนอื่นๆ อย่างวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลใช้วิธีฉีดพ่นทางจมูก หรือวัคซีนโรคโปลิโอและไวรัสโรตาใช้วิธีหยดในช่องปาก

อย่างไรก็ตาม การหยดในช่องปากใช้ไม่ได้ผลกับวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ เนื่องจากจะถูกย่อยสลายโดยกระบวนการย่อยอาหารก่อนที่จะออกฤทธิ์ ทำให้เกิดการพัฒนาวัคซีนแบบสเปรย์ฉีดจมูกนี้ขึ้นมา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน และมีการทดลองเพิ่มเติมต่อไป

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก xinhuathai