รีโนเวทบ้าน เมื่อผมเปลี่ยนแฟลตตำรวจธรรมดา ให้กลายเป็นห้องน่าอยู่สไตล์ Hipster & Minimal !
"บ้านคือวิมานของเรา" ยังเป็นคำที่คลาสสิคและใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยจริง ๆ ว่าไหมคะ แต่บางครั้งบางคราว หน้าที่การงานและอะไรหลาย ๆ อย่างก็ไม่อำนวยให้เราได้อาศัยอยู่ใน "บ้าน" ที่เป็นของเราเอง ดั่งเช่น คุณ modemans สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม นายตำรวจหนุ่มอนาคตไกล(และโสดด้วยนะจ๊ะ อิอิ) ที่ต้องจากบ้านมาอาศัยอยู่ใน "แฟลตตำรวจ" ของหน่วยงานที่ทำ ซึ่งหลาย ๆ คนคงคุ้นชินกับสภาพแฟลตที่ธรรมดา ดูไม่มีอะไร เรียบร้อยจืดชืดตามแบบราชการ แต่ถ้าตกแต่งนิดหน่อย ๆ ก็น่าอยู่ได้ตามสมัยนิยม ว่าแล้วอย่ารอช้า ไปตามดูความฮิปของตำรวจหนุ่มคนนี้กันเลยจ้า
+++++++++++++++++++++++++++++
รีโนเวทบ้าน เมื่อผมเปลี่ยนแฟลตตำรวจธรรมดา ให้กลายเป็นห้องน่าอยู่สไตล์ Hipster & Minimal !เรียบเรียงจากกระทู้ เปลี่ยนแฟลตตำรวจธรรมดา เป็นห้องน่าอยู่สไตล์ Hipster & Minimal!http://pantip.com/topic/34628490
สวัสดีเราขอออกตัวก่อนว่าเราเป็นตำรวจ
สำหรับกระทู้นี้ก็เป็นการแชร์ไอเดียจัดห้อง และเพื่อให้คนที่กำลังจะลองจัดห้องครั้งแรก (เช่นผม) ได้ศึกษาวิธีการ 'เริ่ม' จัดทำ เพราะผมว่ามันเป็นอะไรที่ยากและสำคัญที่สุดแล้วครับ ซึ่งนี้ก็เป็นการรีโนเวทห้องซึ่งเป็นแฟลตตำรวจแห่งหนึ่งในกรุงเทพตัว จขกท. เองเพิ่งเรียนจบ และเริ่มทำงานมีแฟลตส่วนตัว เลยคิดว่าถ้าเราได้อยู่ห้องในสไตล์ที่เราชอบก็คงดีต่อสุขภาพจิตและการทำงาน จึงเริ่มรีโนเวทแฟลตในรูปแบบที่เรียบง่าย โล่งๆ แต่รู้สึกอุ่นๆ ได้อยู่กับสิ่งที่เราชอบซึ่งขอบอกก่อนว่าการรีโนเวทของ จขทก. หลักๆแค่ซื้อของเข้ามาใส่ และจัดจากห้องโล่งๆ แล้วเพิ่มพลังเข้าไปเท่านั้นครับสภาพแฟลตทั่วไป พอพูดว่าเป็น แฟลตตำรวจ หลายคนอาจนึกภาพแฟลตหลอนๆ สกปรก น้ำไม่ไหล เพดานรั่ว นั้นท่านคิดถูกแล้วครับ
อันนี้เป็นห้องของรุ่นพี่ จขกท. ในแฟลตเดียวกัน สภาพห้องผมก่อนหน้าที่รุ่นพี่ผม (พี่แบงค์ พี่บีม พี่โต้ และพี่ฟิว) จะมาช่วยบูรณะก็น่าจะประมาณนี้ครับ ต้องขอขอบคุณพี่ๆไว้ ณ ที่นี้ครับ
อีกมุม
แต่ก็เป็นข้อดีตรงที่มันจะดูดิบๆดี ส่วนห้องผมอยู่ชั้นสูงสุด ชั้น 5 จึงเป็นอุปสรรคต่อการขนของเล็กน้อย แต่วิวก็สวยดีครับ
สภาพโดยรวมของห้อง ได้ผ่านการซ่อมแซมมามากแล้วน่ะครับ ทั้งทาสี และปูกระเบื้อง ซ่อมเพดาน โดยรุ่นพี่ จขกท. ซึ่งผมก็ถือว่าโชคดีอย่างนึงคือ ได้ห้องแฟลตที่มีขนาดใหญ่ที่สุด แฟลตห้องอื่นๆจะเล็กกว่านี้มากพอสมควรครับ
ในส่วนของประตูห้องไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรครับ เพราะเปลี่ยนใหม่ก็แพง และคิดว่ามันคลาสิคดี สติ๊กเกอร์ กระดาษหนังสือพิมพ์แบบนี้ก็หาไม่ได้แล้ว คิดซะว่าเป็นมรดกครับส่วนนี้ก็ เจ้าของห้องคนเก่าครับ ชื่อแบมแบม
ตามคอนเซปดีไซน์เรา เรียบ โล่ง อุ่นๆ ฮิปๆ มินิๆ ตอนแรกก็เริ่มหาต้นเเบบหรือไอเดียจัดห้องที่ชอบก่อนเนาะ หาเทคนิคการจัดห้องจากกระทู้อื่นๆ สังเกตโทนสีที่เข้ากัน (ง่ายๆคือ ตอนแรกไม่มีความรู้เกี่ยวกับการตกแต่งภายในนั้นเอง) รวมถึงดูจากการจัดห้องตัวอย่างของ IKEA และหาดูภาพจาก Pinterest ครับ
อีก 1 แรงบันดาลใจ
เก๋ ๆ
ซึ่งของหลักๆ จขกท. จะซื้อกับ IKEA จะมีของ Home pro, Index บ้าง Robinson Lazada จตุจักรก็ไป แต่ไม่ค่อยได้อะไรครับสำหรับห้องแรกที่ผมจัดนั้นก็คือห้องนอนซึ่งตัวผมเองก็มีความฝันอยู่อย่างคือ ได้มีที่นอนที่ไม่มีเตียง และมีโซฟาเป็นของตัวเอง (ความฝันเด็กน้อยมาก)อ่อ ตอนแรกไม่ได้มีแค่ห้องโล่งๆว่างเปล่านะครับ มีฟูก 1 อัน พี่บีมให้มา
ท้าดาาาาา
สีหลักๆ ก็ให้ออกไปทางสีขาวครับ เพื่อที่จะได้ดูกว้างโล่งสว่างดี ส่วนโทนสีน้ำเงินอันนั้นผมชอบเป็นการส่วนตัวการเรียงหนังสือก็ซ่อนสัน เพื่อให้เห็นเฉพาะส่วนที่เป็นสีกระดาษสีเดียวครับ
ลูกกลมสีขาวดำ (วิซูแนร์) ที่ใช้ประดับ จริง ๆ เขาประกอบเป็นลูกกลม ๆ ใช้ห้อย แต่ จขกท. ก็เอามาพับครึ่งติดกับผนัง ซึ่งก็ได้ไอเดียมาจากการจัดห้องของ IKEA ครับส่วนสติ๊กเกอร์ได้มาจากซีดีหนังเรื่องหนึ่ง ก็ติดไว้เตือนใจ
อันนี้ถ่ายมาจาก IKEA ใช้มาเป็นไอเดียประยุกต์ในการจัดห้องของเราเองครับ
โดยปกติ จขกท. เป็นคนขี้เซาครับ นาฬิกาแบบนี้ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดี ปลุกทีตื่นทั้งแฟลต
กล่องนั่งสีดำที่ซื้อจาก Lazada (มีทั้งหมด 3 กล่อง อีก 2 กล่องใช้เป็นที่นั่งข้างโซฟา) นี้ถือว่าเป็นคีย์สำคัญที่ทำให้ห้องโล่งและไม่รก เพราะผมใช้เป็นที่เก็บของหลักของห้องนี้เลยครับ และที่สำคัญอีกอย่างในการจัดห้องคือ ของอันไหนที่มีแล้วมันไม่ได้ใช้ ไม่จรรโลงใจผมก็ทิ้งหมด ตามหลักของคุณคนโด มาริเอะ
ในส่วนของห้องโถงกลาง จะใช้รวมกันทั้งห้องนั่งเล่น และส่วนของโต๊ะทำงานอ่านหนังสือครับ
ยอมรับว่าของหลายๆอย่างที่เลือกซื้อเลือกมาจัดนั้น เลือกเพราะอารมณ์ชอบล้วนๆ ไม่มีเหตุผลอื่น mix&match ไก่กาอะไรส่วนดอกยิปโซ ยิปซี มีคนเขาบอกว่ามีแล้วห้องจะดูดีครับ.. ผมว่าก็ดีในระดับนึง แต่ที่สำคัญคือมันอยู่ได้นาน หาซื้อได้ที่ตลาดสี่มุมเมือง
งามมมม
ส่วนใหญ่ที่ใช้ติดของกับผนังจะใช้ยาสีฟันเป็นตัวเชื่อมนะครับ เพราะเวลาลอกออกจะไม่ทิ้งรอยนั้นเอง วิธีการก็เหมือนใช้แทนกาวเลยในส่วนของห้องน้ำ การปูพื้นหญ้าเทียมถือเป็น Signature ของเรา ข้อดีคือสบายตา ไม่อมน้ำ ไม่อมฝุ่นมาก ทำความสะอาดง่าย สบายเท้า ตัดแต่งรูปทรงขนาดได้ง่าย ถ้าใครเคยขึ้นรถ จขกท. จะเข้าใจในจุดๆนี้ระเบียงหลังห้องจะมีเป็นลักษณะคล้ายไม้ระแนงบังสายตา และกันความร้อน (และมันก็กันไม่ให้ลมเข้าด้วย- -)
มุมสวนเล็ก ๆ
ส่วนนี้ก็เป็นสหายร่วมห้องของผมครับ
ระเบียงหน้าห้องก็ใช้เป็นที่พักผ่อน เหมาะสมสำหรับปลดปล่อยความคิดชมวิวคลายเครียดครับ
เก่าแต่เก๋า
งบประมาณคร่าวๆ ที่ใช้ไปก็ประมาณ 2-3 หมื่นครับภาพภายในห้อง จขกท. อาจยังเอาลงไม่ครบทุกมุม มีโอกาสจะกลับมาเพิ่มเติมให้นะครับบางท่านอาจสงสัยว่า จขกท. เอาเวลาว่างที่ไหนมาทำตัวผมเอง จริงๆแล้วไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวครับ เนื่องจากงานที่ทำเรียกได้ว่า หนัก ประกอบกับเรียนต่อควบคู่ไปด้วยแต่ก็พยายามบริหารเวลานะ แล้วผมก็เชื่อว่าคนเรามีเวลาให้สิ่งที่รักเสมอแหละครับ
สุดท้ายเมื่อเรามีห้องที่ชอบแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องจัดเก็บมั่นดูเเลห้อง ขอให้ทุกคนมีความสุขกับห้องหรือบ้านที่ตัวเองอยู่ และขอเป็นกำลังใจให้ผู้เริ่มต้นจัดห้องนะครับ ในครั้งแรกๆ จะเละเป็นธรรมดาครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามกระทู้แรกของผมครับ {;
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก คุณ modemans สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม