ข่าวที่ 1 : พปชร. ส่ง “สิระ-ปารีณา” ประกบ “เสรีพิศุทธ์” ใน กมธ. แทน 2 ส.ส.เดิม
วันที่ 5 พ.ย. ที่พรรคพลังประชารัฐ มีการประชุม ส.ส.ประจำสัปดาห์ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดประชุมสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 โดยนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. แจ้งต่อที่ประชุมว่าขอเสนอชื่อตัวเองเข้าไปทำหน้าที่ในกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ แทนที่นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา ที่มีความอึดอัดและประสงค์จะลาออก พร้อมกันนี้นายสิระ ยังได้เสนอชื่อ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ให้เข้าไปร่วมทำหน้าที่ใน กมธ.ชุดดังกล่าวด้วย โดยให้เข้าไปแทนที่นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี ซึ่งประสงค์ลาออกด้วย ที่ประชุมจึงรับทราบและให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทางด้าน น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ตนรู้สึกเห็นใจท่านพยมและท่านธนะสิทธิ์ ที่รู้สึกหมดความอดทนกับพฤติกรรมที่มีการใช้อำนาจกรรมาธิการแบบเกินขอบเขต และเข้าใจดีถึงความอึดอัดใจหากจะต้องเข้าร่วมประขุมในทุกสัปดาห์ ซึ่งหากเกิดความรู้สึกเช่นนี้การลาออกก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดหรือน่าแปลกอะไร ส่วนวันนี้ที่ประชุมก็ได้มีมติให้ตนและนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.ทำหน้าที่แทนทั้ง 2 ท่าน ตนพร้อมที่จะทำหน้าที่แทนอย่างเต็มใจ และจะทำให้ประเทศชาติและประชาชนได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ให้สมค่ากับทุกคะแนนของชาวราชบุรีที่เลือกตนมา และยังกล่าวต่ออีกว่า “จะพยายามสอนและตักเตือนบรรดา ส.ส.สมัยแรกบางคนว่า อำนาจของกรรมาธิการมีแค่ไหน แต่ส่วนตัวตนมั่นใจว่า จะสามารถอดทน กับคนเจ้าอารมณ์ บ้าอำนาจ ควบคุมสติไม่ได้ ได้อย่างแน่นอน” น.ส.ปารีณา กล่าวว่าอย่างนั้น
ข่าวที่ 2 : สาวท้องแก่โวย! หลังปวดท้องใกล้คลอด แต่ถูกไล่ให้ไป รพ.ตามสิทธิ สุดท้ายไปไม่ทัน ลูกเสียชีวิต
นางสาวสิริกาญจน์ ร่วมสำเภา อายุ 22 ปี เจ้าของโพสต์ เล่าว่า ตนตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน เมื่อวันที่ 3 พ.ย. เวลาตี 3 มีอาการปวดท้องหนักเหมือนจะคลอด แต่ก็อดทนไว้ จน 6 โมงเช้า รู้สึกเหมือนถุงน้ำคร่ำแตกและมีน้ำและเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดจำนวนมาก จึงรีบไปโรงพยาบาลสมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุด เมื่อไปถึงห้องฉุกเฉิน ได้มีการวัดไข้ วัดความดัน และอัลตร้าซาวน์ พบว่าเสียงหัวใจเด็กยังเต้นปกติ จึงดีใจว่าเด็กยังมีโอกาสรอด เพราะหมอบอกว่า ถ้าจะยื้อชีวิตเด็กต้องฉีดยาระงับคลอด และนอนให้ยาที่โรงพยาบาล ซึ่งหมอได้ย้ายตัวขึ้นไปห้องข้างบน
จากนั้น หมออีกคนหนึ่งเดินเข้ามาหา แล้วพูดว่า "ทำไมไม่ไปโรงพยาบาลตามสิทธิ์ มาที่นี่ทำไม" ตนเลยตอบไปว่า "หนูปวดท้องหนัก หนูเลยรีบมาที่นี่เพราะใกล้บ้าน และหนูก็ฝากครรภ์ที่นี่ด้วย" พร้อมยื่นสมุดฝากครรภ์ให้เขาไปเช็คสิทธิ์ และพยาบาลกลับมาแจ้งว่าใช้สิทธิ์ที่โรงพยาบาลดังกล่าวไม่ได้ หากจะรักษา ต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ 5-6 พันบาท หากไม่มีเงินต้องย้ายไปรักษาโรงพยาบาลตามสิทธิ์ ตนจึงตกลงที่จะย้ายโรงพยาบาล เพราะคิดว่าทางโรงพยาบาลดังกล่าวจะมีรถของโรงพยาบาลไปส่ง แต่ปรากฏว่าหากจะให้รถโรงพยาบาลไปส่งก็ต้องเสียเงินอีกพันกว่าบาทและให้ตนนั่งรถเข็น โดยเข็นมาทิ้งไว้ที่ข้างโรงพยาบาล ตนจึงโทรเรียกให้พี่สะใภ้มารับ และได้โบกแท็กซี่ไปโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิ์ เมื่อไปถึงโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ หมอรีบพาเข้าห้องตรวจนรีเวช พบว่า หัวเด็กโผล่ออกมาจากช่องคลอดแล้ว แต่เมื่อทำคลอดออกมา เด็กเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะลูกคนก่อนหน้านี้ก็แท้งเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ที่ตนนำเรื่องราวมาโพสต์ไม่ได้คิดจะประจานโรงพยาบาลและไม่ได้ติดใจในเรื่องที่แท้งลูก เพราะถึงแม้ว่าโรงพยาบาลสมุทรปราการจะทำการรักษา เด็กก็มีโอกาสรอดน้อยเพราะคลอดก่อนกำหนด แต่ติดใจที่ทำไมไม่รักษาตนทั้งที่ตนอาการหนักมาก เลือดไหลเต็มพื้น แต่เขาก็ยืนกรานที่จะให้ตนย้ายโรงพยาบาลให้ได้ ซึ่งคนที่รู้จักก็เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้หลายคน จึงอยากให้โรงพยาบาลปรับปรุงในทุกส่วน ทั้งการดูแลคนไข้และการบริการให้ดีกว่านี้ ซึ่งหลังจากนี้ตนก็คงไม่เข้าไปใช้บริการโรงพยาบาลนี้อีก ทั้งนี้ ทางด้านโรงพยาบาลสมุทรปราการจะทำการชี้แจงต่อสื่อมวลชนในวันนี้ ในเวลา 10.00 น. ติดตามทั้งหมดนี้ได้ในรายการจามเจาะข่าว...
ขอขอบคุณรูปภาพจาก workpoint news