ข่าวที่ 1 : สภาล่ม ครั้งที่ 2! หลังเปิดสภาลงมติตั้งกมธ.ศึกษาผลกระทบม.44
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้มีการลงมติเห็นชอบตามญัตติด่วน เรื่องการให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 ซึ่งผลคะแนนพลิกล็อกฝ่ายรัฐบาลแพ้ฝ่ายค้าน ด้วยคะแนน 236 ต่อ 231 งดออกเสียง 2 และไม่ลงคะแนน 1 จนนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล เสนอให้นับคะแนนใหม่ทันที ท่ามกลางการประท้วงของส.ส.ฝ่ายค้านอย่างหนัก ต่อมานายชวน ยืนยันวินิจฉัยตามเดิม โดยให้นับคะแนนใหม่ตามข้อบังคับการประชุม ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน ได้เริ่มเดินออกจากห้องประชุมทันที
ล่าสุด ในวันนี้ นายชวน ได้ดำเนินการประชุมต่อ เพื่อพิจารณาญัตติการขอนับคะแนนใหม่ ซึ่งทางส.ส.พรรคฝ่ายค้านขอยืนยันจุดยืนเดิม คือ ไม่ขอส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการนับคะแนน รวมทั้งไม่ร่วมในทุกกระบวนการของการนับคะแนนใหม่ จากนั้นนายชวน จึงเริ่มดำเนินการประชุมต่อ แต่เมื่อให้สมาชิกแสดงตนต่อที่ประชุมฯปรากฎว่าองค์ประชุม มีส.ส.อยู่ในห้องประชุมไม่ถึง 240 คน ซึ่งไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนส.ส.ทั้งหมด 499 คน ทำให้นายชวน ได้สั่งปิดประชุม ในเวลา 11.25 น. ส่งผลให้ที่ประชุมสภาฯล่มเป็นครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากการประชุมสภาฯเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการประชุมสภาฯล่มครั้งที่ 2 ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ข่าวที่ 2 : “อ้อย เทคมีเอาท์” ไลฟ์สดซดยา หลังถูกกองปราบฯ จับคดีฉ้อโกง
เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 26 พ.ย. นางสาวศรีวิภา กลางเบิด หรือ 'อ้อย เทคมีเอาท์' ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กพร้อมไลฟ์สด กินยาฆ่าตัวตาย เนื่องจาก ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งมาจากก่อนหน้านี้เธอถูกจับตำรวจกองปราบปรามจับกุมที่คอนโดย่านพระรามสาม ข้อหาฉ้อโกง สื่อต่างๆ ก็ถูกนำภาพมาเปิดเผย ซึ่งทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเลียงไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวและเรื่องธุรกิจ โดยที่เธอได้ทำการพูดคุยตกลงกับเจ้าทุกข์ไปแล้ว ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างลำบาก จนเป็นเหตุให้กินยาฆ่าตัวตาย
ทางด้านอ้อย เทคมีเอาท์ ที่กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งเคยโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวประมาณว่า "ขอบคุณทุกความห่วงใย อ้อยตัดสินใจว่าแล้วความตายของอ้อยต้องไม่ตายฟรี ตำรวจกองปราบที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ต้องรับผิดชอบ หมิ่นประมาท สำนักข่าวทุกสำนักต้องรับผิดชอบกับการแลกชีวิตในครั้งนี้ ประชาชนจะอยู่ยังไง ในเมื่อตำรวจ คนรักษากฎหมาย กระทำผิดเองร่วมมือกับนักข่าวเพื่อทำลายชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง เพื่อพวก...ได้ผลงานโง่ๆ แต่ทำลายชีวิตคนคนหนึ่ง"
ความคืบหน้าล่าสุด หลังจากที่คุณอ้อยได้ทำการล้างท้องและออกจากโรงพยาบาล ก็ได้เข้าไปให้สัมภาษณ์เปิดใจในรายการโหนกระแสถึงปัญหา เรื่องราวที่เจอว่า "อ้อย เทคมีเอาท์ มีคดีหมายจับอื้อ 9 คดี มีเจ้าทุกข์เตรียมฟ้องเพียบ ในเคสกรณีนี้ที่เข้าจับ ดิฉันไม่ทราบว่ามีหมายจับ เพราะถ้าไปเช็กที่ศาลแขวงพระนครเหนือ จะเห็นว่าดิฉันมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกับทุกเคสที่มีปัญหา" โดยทางด้าน พ.ต.อ. เนติ วงศ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับปราบปราม ได้ทำการโทรศัพท์เข้ามาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่าทำตามกฎหมาย และการพาดหัวข่าวถือว่าเป็นอำนาจของสื่อแต่ละช่อง
ข่าวที่ 3 : สาวโพสต์คลิปเตือนภัย หลังโดนบิ๊กไบค์ปาดหน้า-หวังเรียกค่าเสียหาย
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ค Walinee Lefevre ได้โพสคลิปวิดีโอเตือนภัยเกี่ยวกับชายขับจยย.บิ๊กไบค์ขับรถปาดหน้าพยายามจอดให้ชน พร้อมระบุข้อความว่า “เตือนภัยค่ะ เค้าบอกว่าเราชนเค้า? แต่ที่เห็นคือเค้าเร่งเครื่องมาปาดหน้าแล้วเบรค อยากให้เราชน? ถ้าเราชนเค้าจริงดังที่เค้าบอก เค้าจะขับหนีไปทำไม? มิตรฉาชีพ? ต้องขอบคุณพี่ๆที่เห็นเหตุการณ์บริเวณนั้นด้วยนะคะ ปล.รถไร้รอยชนหรือแตกหักใดๆ เพราะเราเบรคทัน แบบนี้ก็มีด้วย ใครเคยเจอบ้าง เคยเห็นแต่ที่จีน ที่วิ่งมากระโดดใส่หน้ารถ เหตุเกิดที่แยกพัทยาเหนือตรงไฟแดงสายสาม" ซึ่งมีผู้เข้าแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด นางวลินี เลอแฟลบว์ อายุ 33 ปี เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ธัมชิต สิทธิศาสตร์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา โดยเปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันที่ 26 พ.ย.62 เวลาประมาน 15.30 น. ตนได้ขับรถยนต์มิตซูบิชิ มาตามถนนพัทยาเหนือ กระทั่งถึงแยกพัทยาสาย3 ได้มีชายไทยอายุประมาน 25 - 30 ปี ขับรถจยย.ยามาฮ่า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาปาดหน้า ก่อนลงมาต่อว่าตนเอง กล่าวหาว่าตนขับรถชน แต่ตนมั่นใจว่าไม่ได้ชนแต่อย่างใด และบอกว่าจะเรียกประกันให้หากคิดว่าตนชนจริง แต่ชายคนดังกล่าวกลับขึ้นรถ แล้วรีบขับหลบหนีไป ทั้งนี้ ตนจึงเดินทางเข้าความกับพนักงานสอบสวนไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจ อย่างไรก็ตาม อยากเตือนภัยไปถึงสังคมให้ระวังบุคคลลักษณะดังกล่าว เนื่องจากอาจจะเป็นมิจฉาชีพก็เป็นได้ โชคดีที่ตนมีกล้องหน้ารถและยังไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงแต่อย่างใด
ขอขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก Workpoint news, ข่าวช่อง 8 และ Facebook Walinee Lefebvre