ข่าวที่ 1 : “ปิยบุตร” ซัดมติ กกต. ยุบอนาคตใหม่ ลั่นเห็นหัว ปชช. บ้าง
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 62 ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้พิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พร้อมทั้งความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่แล้ว โดยที่ประชุมเห็นว่าการที่พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นเงินจำนวน 191,200,000 บาท เป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 จึงมีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ออกมายืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับมติของกกต. อย่างสิ้นเชิง และตั้งข้อสงสัยการทำงานของกกต. ว่า มีวัตถุประสงค์ต้องการเป็นเครื่องมือในทางการเมือง มีเรื่องบิดผันโดยมิชอบหรือหรือไม่ 3 ประเด็น ดังนี้
1. กกต.เร่งรัดกรณีกู้เงินอย่างผิดสังเกต ไม่มีการเรียกไปแจ้งข้อกล่าวหา ไม่เรียกไปสอบสวน มีเพียงให้ประธานคณะกรรมการไต่สวนเชิญไปชี้แจง 3 ครั้ง และให้เรียกส่งเอกสารจำนวนมาก
2. กระบวนการทำงานในคดี มีเอกสารหลุดที่ลงนามโดยเลขาธิการกกต. มีข่าวปล่อยในสื่อหลายฉบับ และท้ายที่สุดมติกกต. เป็นไปตามแหล่งข่าว เป็นกระบวนการชี้นำทางสื่อ ทำให้เชื่อกันไปแล้วล่วงหน้าว่า พรรคอนาคตใหม่มีความผิดจริง
3. กกต.อ้างเหตุว่าพรรคอนาคตใหม่มีความผิดตามมาตรา 72 พระราชบัญญัติว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 พูดง่าย ๆ คือรับเงินที่ได้มาโดยมิชอบ เช่นเงินนั้นได้มาจากคอร์รัปชั่น ทุจริต ฟอกเงิน ขายยาเสพติด ลักวิ่งชิงปล้น คำถามคือเงินที่ได้มาจากการกู้หัวหน้าพรรค นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ชอบด้วยกฎหมายตรงไหน กกต. ไม่ได้มีคำตอบตรงนี้ ไม่ได้ตอบอะไรเลย เอกสารแถลงข่าวของกกต. ออกมาเห็นแล้วผิดหวัง 5 บรรทัด ทำงานกันแบบนี้ ง่ายจริง ๆ ไม่อธิบายเหตุผลอะไรเลย
นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า พรรคอนาคตใหม่ยืนยันเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง มติของกกต.วันนี้ไม่สามารถหยุดการทำงานของพรรคอนาคตใหม่ได้ ให้รู้ไปว่าพรรคอนาคตใหม่จะไม่มีที่อยู่ที่ยืน พร้อมต่อสู้ในทางคดีความต่อไป เรียกร้องผู้มีอำนาจฟังเสียงความต้องการของประชาชน และเรียกร้องสังคมไทยอย่ายอมให้การใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือได้เดินหน้าต่อไป
ข่าวที่ 2 : “ฝน ศนันธฉัตร” เปิดใจหลังนั่งเฟอร์รารี่พุ่งชนยับ รับฝ่ายชายเป็นแฟนจริง!
ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกแล้วสำหรับ นักแสดงสาว ฝน ศนันธฉัตร หลังมีเพจนำรูปเจ้าตัวกับหนุ่มรุ่นพี่คนสนิท นาย สราวุธ เสรีธรณกุล อายุ 36 ปี ผู้บริหารบริษัทผลิตรังนกชื่อดังและนักแข่งรถ ที่ประสบอุบัติเหตุรถเฟอร์รารี่พุ่งชนเข้ากับแท่งปูนแบริเออร์ ด้วยกันมาลงในเพจ พร้อมเขียนข้อความว่า “หายไวๆนะคะทั้งคู่ ฝ่ายหญิงมีคุณแม่และผู้จัดการดูแล ฝ่ายชายมีภรรยาดูแล หายไวๆนะคะ” ซึ่งมีคนเข้ามาคอมเมนต์ในเชิงเสียหายเป็นจำนวนมาก จนสาวฝนได้ออกมาโพสต์ไอจีสวนกลับพร้อมเอาผิดเพจดังกล่าวและผู้ที่คอมเมนต์ทันที ว่า “สวัสดีค่ะ ฝากถึงแอดมินเพจและคนคอมเม้นนะคะ ขอแจ้งให้ทราบว่าจะดำเนินการตามกฎหมายค่ะ ข่าวที่เขียนไม่เป็นความจริง พี่เค้าไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยมีภรรยาและคนที่เฝ้าอาการอยู่คือฝนและทางครอบครัวของพี่เค้านะคะ ตอนนี้อาการปลอดภัยดี ทั้งฝนและพี่เค้าอยู่ในขบวนการรักษาของแพทย์ สำหรับเพจนี้ที่ไม่มีจรรยาบรรณและทำให้ชื่อเสียงเสียหาย ทั้งแอดมินและบุคคลที่คอมเม้น คุยกันอีกทีผ่านขบวนการทางกฎหมายนะคะ ไม่รับคำขอโทษค่ะเพราะว่าจะได้เป็นตัวอย่างให้บุคคลสาธารณะคนอื่นๆที่เคยโดนข่าวแบบนี้เหมือนกัน ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ขอบคุณค่ะ”
ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกงานอีเวนท์เป็นครั้งแรกหลังจากเกิดอุบัติเหตุ พร้อมเปิดใจถึงสถานะความสัมพันธ์ของเธอกับหนุ่มกี้รุ่นพี่คนสนิท ว่ารู้จักกันมา 2 ปี และเริ่มคุย คบหาดูใจกันมานานกว่า 1 ปี เรียกแฟนได้แล้ว ยืนยันฝ่ายชายยังไม่เคยผ่านการแต่งงานแน่นอน
ขอขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก Workpoint news, พรรคอนาคตใหม่
และข่าวช่อง 8