ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก “สมคิด พุ่มพวง”

ข่าวที่ 1 : ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก “สมคิด พุ่มพวง”

หลังตำรวจคุมตัว นายสมคิด พุ่มพวง หรือ คิด เดอะริปเปอร์ ผู้ต้องหากรณีฆ่านางรัศมี มุลิจันทร์ หรือฝ้าย วัย 51 ปี ในบ้านพัก ตำบลหนองโก อำเภอกระนวล จังหวัดขอนแก่น ไว้ที่ สภ.กระโดน เพื่อเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่านายสมคิด ปฏิเสธที่จะเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งอ้างจะทำให้เกิดความเครียด

สำหรับบรรยากาศที่ สภ.กระนวล มีประชาชนจำนวนกว่า 200 คนมาร่วมเฝ้าสังเกตการณ์ รวมถึงมีบางส่วนถือป้ายที่ระบุคำว่า “ประหาร” เพื่อเรียกร้องสิทธิให้กับผู้ตาย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าประชาชนจะเข้ารุมประชาทัณฑ์ผู้ก่อเหตุ

ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา คือ ข้อหาแรก ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กระทำการทารุณโหดร้ายทรมาน ข้อหาที่ 2 ปิดบังซ่อนเร้นศพ ข้อหาที่ 3 ลักทรัพย์หรือรับของโจร และสุดท้ายหากผู้ต้องหาไม่ยินยอมทำแผนด้านในบ้าน ตำรวจจะคุมตัวนายสมคิดไปทำแผนเพียง 2 จุด คือบริเวณหน้าวัดใหม่ชัยมงคล ซึ่งเป็นจุดที่นายสมคิดเดินเท้ามาจากบ้านเพื่อขึ้นรถโดยสาร จากอำเภอกระนวน อีกจุดที่ผู้ต้องหายินยอมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คือ บริเวณ จุดจอดรถ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนในการทำแผนแล้ว ตำรวจจะคุมตัวนายสมคิด ไปฝากขังยังศาลจังหวัดขอนแก่น ตามขั้นตอนต่อไป

-ข่าวที่ 2 : เปิด 10 อันดับธุรกิจรุ่ง-ร่วง ปี 2563

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่งและดาวร่วง ประจำปี 2563 โดยใช้กรอบการพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัย อาทิ ภาวะเศรษฐกิจ, ประเทศคู่ค้า, ดัชนีตลาดหลักทรัพย์, ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ รวมถึงความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ โดยพบว่า 10 ธุรกิจดาวรุ่งที่น่าจับตาที่สุดในปี 2563 ได้แก่ อันดับ 1 ธุรกิจแพลตฟอร์ม, อันดับ 2 ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ และอุปกรณ์ รวมทั้งผู้ให้บริการเครือข่าย, อันดับ 3 ธุรกิจเกมส์ และธุรกิจพัฒนาแอปพลิเคชัน, อันดับ 4 ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์, อันดับ 5 ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม, อันดับ 6 ธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจสตรีทฟู้ด, อันดับ 7 ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ, อันดับ 8 ธุรกิจด้านฟินเทค และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี และธุรกิจพลังงาน, อันดับ 9 ธุรกิจก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจที่ปรึกษาด้านกฎหมาย/บัญชี และอันดับ 10 ธุรกิจด้านท่องเที่ยว Hostel modern tourism และ Lifestyle tourism และธุรกิจเครื่องสำอาง-ครีมบำรุงผิว ส่วนสาเหตุที่ธุรกิจแพลตฟอร์ม ครองอันดับ 1 เป็นเพราะเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ผู้ประกอบการหันมาทำธุรกิจออนไลน์มากขึ้น

ส่วน 10 ธุรกิจดาวร่วงในปี 2563 ประกอบด้วย อันดับ 1 คือธุรกิจเช่าหนังสือ, อันดับ 2 ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐาน และเครื่องโทรสาร, อันดับ 3 ธุรกิจร้านให้บริการอินเทอร์เน็ต, อันดับ 4 ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และวารสาร ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ใช้แรงงานมากและขายในประเทศ, อันดับ 5 ธุรกิจหัตถกรรม และเฟอร์นิเจอร์ไม้, อันดับ 6 ธุรกิจการค้าแบบดั้งเดิม, อันดับ 7 ธุรกิจคนกลาง, อันดับ 8 ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ความจำต่างๆ เช่น CD, DVD, Memory Card, อันดับ 9 ธุรกิจดั้งเดิมที่ไม่มีดีไซน์และใช้แรงงานสูง และอันดับ 10 ธุรกิจสถานศึกษาเอกชน และธุรกิจร้านถ่ายรูป นอกจากนี้ ร้านกาแฟและร้านชานมไข่มุก ที่มีทำเลที่ตั้งไม่ดี ขนาดเล็ก และไม่มีแฟรนไชส์ ก็ถูกจับตาว่าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงในปีหน้าเช่นกัน