สื่อฯ ตั้งฉายารัฐบาล-นายกฯ พร้อม 10 รมต.

ข่าวที่ 1 : สื่อฯ ตั้งฉายารัฐบาล-นายกฯ พร้อม 10 รมต.

สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลร่วมกันตั้งฉายารัฐบาล เพื่อเป็นกระจกสะท้อนเงาการทำงานของครม. โดยให้ฉายารัฐบาลปีนี้ว่า "รัฐเชียงกง" สำหรับฉายารัฐบาลดังกล่าว สะท้อนภาพรัฐบาลคล้ายแหล่งค้าขายอะไหล่มือสอง ประกอบกันขึ้นจาก ข้าราชการยุคก่อน นักการเมืองหน้าเก่า แม้ใช้ประโยชน์ได้ แต่ยังขาดความน่าเชื่อถือ สะท้อนความไม่มีเสถียรภาพ

ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ได้ฉายา อิเหนา เมาหมัด เป็นการยกสุภาษิตไทย ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ที่ผ่านมานโยบายของนายกรัฐมนตรี มักจะตำหนิหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แต่สุดท้ายกลับทำเองซะอย่างนั้น

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา พี่ใหญ่สายเอ็น ในฐานะพี่ใหญ่ของ สาม ป. คอยดูแลน้องรักแล้ว ยังต้องเอ็นเตอร์เทนพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงเอ็นดูคนในพรรคด้วย ส่วนงานด้านความมั่นคง ก็เหลือเพียงเดินสายเปิดงานอีเวนต์และงานประชุมทั่วไป

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา ชายน้อยประชารัฐ เจ้าของโปรเจกต์โครงการประชารัฐ กลับทำไม่ได้อย่างที่หวัง และถูกริบอำนาจงานด้านเศรษฐกิจหลายกระทรวง คล้ายคนง่อยเปลี้ยเสียขา สุดท้ายเหมือนตัวคนเดียว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา ศรีธนญชัยรอดช่อง ด้วยความเป็นกูรูด้านกฎหมายของรัฐบาล สามารถช่วยรัฐบาลรอดพ้นปากเหวได้ทุกครั้ง เปิดทางตันด้วยช่องว่างทางกฎหมายที่แม้แต่แว่นขยายก็ยังมองไม่เห็น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ ได้ฉายา รัฐอิสระ เมื่อมีฝ่ายค้านอิสระ รัฐบาลนี้ก็มีฝ่ายรัฐบาลอิสระของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้ความสำคัญและเดินหน้าเฉพาะนโยบายของพรรค ไม่สนใจภาพรวมของรัฐบาล สร้างความหวาดระแวงภายในรัฐบาลตลอดเวลา ซึ่งก็ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข ได้ฉายา สารหนู เพราะมีชื่อเล่นว่า หนู มีพิษสงรอบตัว ด้วยจำนวน สส. ในมือ มีผลต่อความเป็นไปของรัฐบาล จึงต่อรองขอคุมกระทรวงใหญ่ไว้ในมือได้ อีกทั้งนโยบายโดดเด่นก็คือการแบนสามสารพิษ จนเป็นชนวนความขัดแย้งในรัฐบาล แต่ก็สยบรอยร้าวได้ในที่สุด

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ ได้ฉายา เทามนัส ถูกขุดคุ้ยคดียาเสพติดในต่างประเทศและวุฒิการศึกษา ทำให้คนกังขา ไม่เชื่อมั่นในความโปร่งใส เป็นมือประสานสิบทิศทางการเมือง ถูกครหาเรื่องการซื้อตัว ส.ส. พรรคเล็กและดีลการเมืองกับฝ่ายค้าน

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ ได้ฉายา มาดามแบนเก้อ ด้วยบุคลิกเฉิดฉาย เด็ดเดี่ยว โดดเด่น เดินหน้าแบนสามสารพิษ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ชนกับเจ้ากระทรวงของตัวเอง แต่จนแล้วจนรอด การแบนสามสารเคมี ยังไม่สามารถปฎิบัติได้จริง ไม่ต่างกับการแบนเก้อ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีคมนาคม ได้ฉายา โอ๋ แซ่รื้อ ผุดไอเดียบรรเจิด ติดตั้ง GPS ในรถยนต์ส่วนบุคคล จนเกิดกระแสต่อต้าน และยังเดินหน้ารื้อหลายโครงการ รื้อมาตรการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า รื้อคดีค่าโง่ทางด่วน รื้อหลักสูตรสอบใบขับชี่ แม้แต่ไม้กั้นรถไฟยังถูกรื้อ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ฉายา สัปเหร่อ ออนท็อป นับแต่เข้ารับตำแหน่ง ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันซ้ำไปซ้ำมา กับบรรดาสิงสาราสัตว์ที่มีชื่อเสียง ทั้ง พะยูนมาเรียม แพนด้าช่วงช่วง เสือของกลาง ช้างป่าเขาใหญ่ เป็นความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็สามารถแสดงศักยภาพรับมือเหตุต่างๆ ได้ดี คล้ายทำหน้าที่สัปเหร่อเก็บกวาดทุกเรื่อง รวมไปถึงคดีความร้อนๆ ของคน และ พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สำหรับวาทะแห่งปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ “อย่าเพิ่งเบื่อผมก็แล้วกัน ยังไงผมก็อยู่อีกนานพอสมควร” ซึ่งกล่าวไว้เมื่อ 13 พ.ย.62 ระหว่างให้โอวาทเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

ข่าว 2 : หนุ่มโวย! จอดรถสังสรรค์ โดนทุบ 3 คันรวดในคืนเดียว

ผู้ใช้เฟชบุ๊คชื่อ บุญยฤทธิ์ ห้าวหาญ โพสต์เรื่องราวของตนเองและเพื่อนร่วมงาน ที่รถโดนทุบกระจกและตัวรถ แต่พอตรวจสอบทรัพย์สินภายในรถ กลับไม่มีอะไรสูญหาย โดยเรื่องเกิดตั้งแต่คืนวันที่ 20 ธ.ค. ภายในซอยลาดพร้าว 69 หลังอยู่รวมงานสังสรรค์ของออฟฟิศ รถที่ได้รับความเสียหายมี 3 คันด้วยกัน โดยระบุว่า “คันที่ 1 รถผมเอง มิตซูบิชิปาเจโร่สปอร์ต เหตุเกิดเวลาประมาณ 20.50 น. คนร้ายได้ใช้อิฐปูนเก้าอี้ม้านั่งในบริเวณใกล้เคียงกับจุดจอดรถทุบไปที่กระจกด้านหลังคนขับและบานที่ 3 ฝั่งขวาแตกละเอียด และทุบที่ตัวรถอีก 3 จุดบุบ รวมถึงจี้บุหรี่ที่ฝากระโปรงรถ ส่วนคันที่ 2 เป็นรถฮอนด้าซิตี้ของรุ่นพี่ที่ทำงาน เหตุเกิดเวลาประมาณตี 1 คนร้ายได้ใช้อิฐปูนอันเดิม (อิฐปูนรถคันแรกคนร้ายโยนทิ้งใกล้ๆบริเวณนั้น) ปาเข้าไปที่กระจกฝั่งซ้ายด้านข้างคนขับแตกละเอียดและก้อนอิฐปูนทะลุเข้าไปด้านในทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียหายด้วย และคันที่ 3 รถ BMW 520D เหตุเกิดเวลาเดียวกับคันที่ 2 คือ ตี 1 คนร้ายได้ใช้อิฐปูนทุบเข้าที่บานกระจกหน้าแตกและด้านบนหลังคายุบ

โดยผู้เสียหายยืนยันว่า ไม่เคยเรื่องมีราวกับใคร และไม่ได้มีปัญหากับชาวบ้านในพื้นที่ และจุดจอดรถก็ไม่ได้กีดขวางทางหรือขวางหน้าบ้านใคร แต่ก็ไม่ทราบว่าเหตุใดรถจึงถูกทุบ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ เห็นภาพคนร้ายตอนก่อเหตุแต่ไม่ชัดมากเนื่องจากอยู่ไกล ส่วนรถอีก 2 คัน จอดอยู่ในจุดที่ไม่มีกล้องวงจรปิด ทั้งนี้ผู้เสียหายบอกว่าพอจะเดาผู้ก่อเหตุได้ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นผู้ติดยาเสพติด แล้วเกิดอาการคลุ้มคลั่ง เบื้องต้นได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.โชคชัย แล้ว แต่ที่ยังไม่มีความคืบหน้า และต้องการแชร์เรื่องราว เผื่อใครที่อยู่ในละแวกนั้น จะสามารถบอกเบาะแสคนก่อเหตุเพิ่มเติมได้

ข่าวที่ 3 : กู้ภัยใจเด็ด! ปลอมตัวเป็นคนเร่ร่อน เข้าช่วย นศ.โดดสะพานลอย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา บนสะพานลอยหน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ มีชายคนหนึ่งปีนไปนั่งที่ราวสะพาน เตรียมกระโดดลงมาด้านล่าง ระหว่างนั้นก็มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันเกลี้ยกลอม แต่ไม่สามารถเข้าใกล้ชายคนดังกล่าวได้ ทำให้ นายวิทวัส สินวรศรีทวีคูณ หัวชุดหน้าชุดกู้ชีพเทศบาลเมืองแม่โจ้ ตัดสินใจปลอมเป็นคนบ้า ทำทีเดินเข้าไปใกล้ จนชายหนุ่มที่คิดสั้นชะล่าใจ ไม่คิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ทำให้นายวิทวัสสามารถเข้าถึงตัว และชาร์จล็อกตัวลงมาได้อย่างปลอดภัย จากนั้นตำรวจได้นำตัวไปสงบสติอารมณ์ ที่ สภ.แม่โจ้ ก่อนที่จะเรียกผู้ปกครองมารับตัว เบื้องต้นทราบว่าเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีปัญหาส่วนตัวจึงคิดสั้น ส่วนเหตุผลที่นายวิทวัสตัดสินใจทำแบบนี้ เพราะเห็นว่าช่วงแรกน้องยังคุยตำรวจได้ดี ต่อมาเห็นน้องเริ่มจิตตก มีแนวโน้มตัดสินใจกระโดดลงไปได้ทุกเมื่อ จึงต้องรีบช่วยน้องลงมา ส่วนการปลอมตัวนี้ก็คิดเอาตามสถานการณ์หน้างานและไม่เคยทำที่ไหนมาก่อน เมื่อช่วยได้ก็ดีใจที่น้องไม่เป็นอะไร