ข่าวที่ 1 : กรมอนามัยยันน้ำประปาเค็ม ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยง
การประปานครหลวงเร่งแก้ปัญหาน้ำประปาเค็ม หลังเจอภาวะน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้เป็นน้ำกร่อย มีรสชาติเค็ม โดยทางการประปานครหลวงเตรียมเจาะบ่อบาดาลเพิ่ม 4 จุด คือ บางเขน มีนบุรี ลาดกระบัง สมุทรปราการ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ยืนยันคนปกติดื่มน้ำประปาได้ ไม่กระทบสุขภาพ ไม่ก่อปัญหาสุขภาพอย่างที่กังวล เพราะไม่ได้ทำให้ร่างกายรับโซเดียมจนเกินกำหนด แต่ควรลดอาหารโซเดียมเยอะด้วย ส่วนผู้ป่วยโรคไต ความดันสูง และเด็กเล็ก มีโอกาสเสี่ยงจึงควรหลีกเลี่ยง แนะอาจซื้อน้ำขวดดื่มแทนก่อน หากใช้น้ำประปาต้องมีเครื่องกรองน้ำระบบ RO
ด้านกรมชลประทานเตรียมแผนบริหารจัดการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ จ.สมุทรปราการ เป็นเครื่องมือเสริมในการควบคุมค่าความเค็มของแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาและภาคการเกษตร โดยเสริมจากการระบายน้ำจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท และผันน้ำแม่น้ำแม่กลองมาผลักดันความเค็มในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงอีกครั้งวันที่ 8-9 มกราคมนี้ โดยในช่วงน้ำทะเลลงจะเปิดประตูระบายน้ำเพื่อผลักดันน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาออก ส่วนช่วงน้ำทะเลขึ้นจะปิดประตูระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำทะเลไหลเข้ามาสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
ข่าวที่ 2 : หนุ่มห้าวขี่รถ จยย. เข้าร้านสะดวกซื้อ เหตุประชดไม่ให้ถุง
หลังจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกกฎบังคับใช้ให้ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ รณรงค์งดแจกถุงพลาสติก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา
ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ประชดเกี่ยวกับการรณรงค์งดแจกถุงพลาสติก ด้วยการขี่รถจักรยานยนต์ เข้าไปในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง เพื่อนำไปเปิดเบาะใส่สินค้าที่ซื้อ โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ก่อนนอนฉันหิว อะไรวะ ไม่ให้ใช้ถุง แต่ขายถุงใบละ 3 บาท ไม่ได้เสียดายเงินนะ แต่แค่สงสัย งั้นก็เอาแบบนี้เลยละกันไม่มีถุง ก็ใส่ในรถแทนไปเลย โดยตอนท้ายผู้โพสต์ระบุว่า เป็นเพียงทำคลิปขำขำเพื่อลงช่องยูทูบเท่านั้น ใครโลกสวยไปไกลๆ” ซึ่งหลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป พบว่าได้รับเสียงวิจารณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม แต่เจ้าตัวกลับโพสต์ข้อความในช่องแสดงความคิดเห็นอีกว่า “ไม่สน เพราะขี่เข้าไปซื้อของธรรมดา ไม่ได้ฆ่าใครตาย”
ล่าสุด พล.ต.ต. ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่าเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต โดยการกระทำผิดชัดเจน คือ 1. ผิด พรบ.การจราจร และหากพบว่าการขับขี่เข้าไปในนั้นผ่านทางเท้าก็จะเจออีกข้อหา / 2.ขับรถบนทางเท้า และหากทางร้านสะดวกซื้อไม่อนุญาติให้ขับรถเข้ามาในพื้นที่ก็จะผิด / 3.ข้อหาบุกรุกสถานที่ส่วนบุคคล โดยเบื้องต้นเข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา โดยขณะนี้ ได้ให้ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต นำตัวมาสอบสวนดำเนินคดี และขอเตือนประชาชนว่าพฤติกรรมการกระทำแบบนี้ ผิดกฎหมาย ห้ามลอกเลียนแบบ
ส่วนประเด็นการงดแจกถุงพลาสติก ล่าสุดนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แสดงความคิดเห็นว่า การที่ห้างสรรพสินค้างดแจกถุงพลาสติก กลับมิได้มีการเตรียมการหาภาชนะอื่นใดมาใช้ทดแทนให้กับลูกค้า แถมมีห้างสรรพสินค้าบางรายฉวยโอกาสในการโขกสับเรียกค่าภาชนะบรรจุสินค้าในราคาที่สูงเกินควร โดยที่ผู้บริโภคไม่สามารถปฏิเสธได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของร้านค้าที่จะต้องเตรียมหาภาชนะอื่นมาให้บริการลูกค้าฟรีมิใช่มาขูดรีดเอากับลูกค้า เป็นการผลักภาระให้กับผู้บริโภคในการจัดเตรียมภาชนะไปใส่สินค้าเอง จึงทำให้ในวันนี้นายศรีสุวรรณ จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ขอให้ใช้อำนาจตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค กำหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคโดยเร็ว
ข่าวที่ 3 : วิกฤตรุนแรง! ไฟป่าออสเตรเลียคร่าชีวิตสัตว์เกือบ 500 ล้านตัว
ภาพถ่ายจากดาวเทียม เผยให้เห็นสถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลีย ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 2562 ในรัฐวิกตอเรียและรัฐนิวเซาท์เวลส์ ล่าสุดกินพื้นที่ราว 38 ล้านไร่ หรือกว่า 60,000 ตารางกิโลเมตร เทียบเท่ากับพื้นที่โครเอเชียทั้งประเทศ
ล่าสุดมีรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 24 คน มีบ้านเรือนถูกทำลายไปแล้ว 1,500 หลัง มีประชาชนกว่า 10 ล้านคนที่ได้รับพิษควันไฟป่า ขณะที่อุณหภูมิในประเทศออสเตรเลียเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 40 องศาเซสเซียส โดยมีการประเมิณว่าหากสถานการณ์ยังรุนแรงเช่นนี้ วิกฤตไฟป่าอาจจะยืดเยื้อต่อไปอีกหลายเดือน
โดยนายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย ได้ตั้่งสำนักงานฟื้นฟูเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่สูญเสียบ้านเรือนและธุรกิจจากไฟป่าครั้งนี้ ขณะที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เขาได้ประกาศระดมกำลังทหารครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเตรียมส่งทหารกองหนุนกว่า 3,000 นาย ไปช่วยเหลือทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครดับเพลิงในการควบคุมไฟป่า
นอกจากนี้ภาพสะเทือนใจชาวโลกตลอดระยะเวลาที่เกิดไฟป่าในออสเตรเลียคือบรรดาสัตว์ป่า ทั้งโคอาลา จิงโจ้ สัญลักษณ์ของประเทศถูกไฟคลอกบาดเจ็บ ล้มตาย สูญเสียให้ไฟป่าครั้งนี้เกือบ 500 ล้านตัวแล้ว ซึ่งมีทั้งนก สัตวเลื้อยคลาน โคอาล่าและประเภทอื่นๆ อีกหลายชนิด
ขณะที่ในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปฝนชุ่มฉ่ำ ที่คาดว่าอาจจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลีย และแฮชแท็ก #PrayForAustralia ในทวิตเตอร์ก็ได้รับการทวิตอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเตือนให้ตระหนักถึงปัญหาใหญ่นี้และเป็นการส่งกำลังใจให้กับชาวออสเตรเลีย และสิ่งมีชีวิต ที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์อันหนักหน่วงนี้
ขอขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ return v.15, ข่าวช่องวัน และ การประปานครหลวง