ทรัมป์ แถลงยุติสงคราม แต่ยังให้พันธมิตรคว่ำบาตร

ข่าวที่ 1 : 'ทรัมป์' แถลงยุติสงคราม แต่ยังให้พันธมิตรคว่ำบาตร

ความคืบหน้าสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน ภายหลังอิหร่านยิงขีปนาวุธมากกว่า 3 ลูก ถล่มฐานทัพสหรัฐฯในอิรักนั้น ซ้ำร้ายยังเกิดเหตุเครื่องบิน โบอิ้ง737 ของสายการบินยูเครน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลนส์ ตกในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งลำ 176 คน ซึ่งแม้ทุกฝ่ายจะยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน แต่ก็มีหลายฝ่ายจับมาเชื่อมโยง

ล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ โดยมีท่าทีเปิดทางให้ยุติการเผชิญหน้า บอกไม่มีทหารสหรัฐฯบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อเมริกาไม่ได้ประกาศว่าจะมีการโจมตีตอบโต้อิหร่าน แต่จะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจแทนและเรียกร้องให้ยุโรปตอบโต้อิหร่านด้วยการยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์ เรียกร้องให้นาโต้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากกว่านี้ รวมถึงบอกว่าถ้าดูกันจริงๆ แล้ว อิหร่านไม่ได้มีท่าทีอยากจะรบ ขณะที่สหรัฐฯเองก็ต้องการสันติภาพ

ขณะที่นักวิเคราะห์มองทรัมป์สบโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งรุนแรง โดยการยิงขีปนาวุธของอิหร่านเหมือนเป็นบันไดให้ทรัมป์ก้าวลงมาจากหลังเสือ และการยิงขีปนาวุธของอิหร่านเป็นการเลือกทำขณะที่สหรัฐฯสามารถรับมือได้และไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น มองว่าอิหร่านไม่ได้ต้องการที่จะทำสงครามอย่างแท้จริง ส่วนจากคำแถลงของทรัมป์มองได้ว่าพยายามเปิดทางให้ 2 ประเทศ เข้าสู่กระบวนการทางการทูต

ด้านอิหร่าน ภายหลังยิงขีปนาวุธ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุดของอิหร่าน ได้แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้คือการตบหน้าอเมริกา แต่เท่านี้ยังไม่พอ ซึ่งชาวอิหร่านที่นั่งฟังอยู่ได้โห่ร้อง "ความตายจงมาสู่อเมริกา" รวมถึงทางการอิหร่าน ได้แถลงว่า พร้อมที่จะโจมตีอีกรอบ โดยระบุเป้าหมายต่อไปคือ ดูไบ และอิสราเอล และพร้อมที่จะโจมตีอีกมากกว่า 140 จุด หากสหรัฐฯมีการตอบโต้

ข่าวที่ 2 : ป้าวัย 56 สุดช้ำ! ค้ำประกัน จยย.ให้เพื่อน ซ้ำถูกทนายหลอกยึดบ้าน

นางวัฒนา คงงาม อายุ 56 ชาวนาใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ขึ้นป้ายหน้าบ้านด้วยข้อความว่า ”ท่านนายกฯลุงตู่ ช่วยชาวบ้านด้วย ค้ำประกันรถมอเตอร์ไซค์ 80,000 บาท ยึดที่ดิน 14 ไร่ ถูกจับขังคุก ไม่มีที่ยืนในสังคมแล้ว เดือดร้อนมากจริงๆ”

สอบถามนางวัฒนาเล่าว่า เมื่อปี 2558 คนรู้จักกันต่างหมู่บ้าน ขอให้ช่วยค้ำประกันรถมอเตอร์ไซค์ให้ กับบริษัทชื่อดังสาขา อ.บ้านกรวด ตนก็ไม่ขัดเพราะเห็นเป็นคนรู้จักกัน จากนั้นตนก็ใช้ชีวิตตามปกติ

ต่อมาเมื่อปี 2560 เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ ได้มาแจ้งตนว่าไม่ส่งงวด จึงให้ตนไปร่วมเจรจา แต่ตนไปไม่ได้เพราะป่วย ซึ่งได้รับประสานจากทนายมาว่า ถ้าไปไม่ได้ ให้เซ็นใบมอบอำนาจไปให้ ตนจึงเซ็นให้ไม่คิดอะไร จนกระทั่งมีป้ายมาติดที่บ้านว่าโดนยึดทรัพย์ขายทอดตลาด เป็นบ้านและที่ดินจำนวน 14 ไร่ ของตนที่อาศัยอยู่ปัจจุบัน ตนแปลกใจมาก เพราะเป็นเพียงแค่คนค้ำประกัน และมาทราบว่า บริษัทให้ทนายฟ้องเงินค่าผิดสัญญาเพียง 82,040 บาท

จากนั้นทนายคนเดิม ได้ให้ตนไปร่วมประมูลทรัพย์ โดยทนายกระซิบตนว่า "ป้าไม่ต้องคัดค้านอะไรนะ ไม่มีประโยชน์ เดี๋ยวผมจะช่วยเอง" จนกระทั่งมีการเคาะประมูลทั้งบ้านและที่ดิน 14 ไร่ เป็นเงิน 340,000 บาท ตนซึ่งไม่รู้ขั้นตอนของกฎหมาย จึงจะซื้อคืนจากทนายในราคา 500,000 บาท แต่ทนายกลับบอกว่าไม่ได้ ถ้าจะซื้อคืนจะขาย 4 ล้านบาท ตนถึงกับเข่าทรุด เสียใจกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ล่าสุดทนายคนดังกล่าว ได้ให้ตำรวจ สภ.บ้านกรวด มาเชิญตัวไปโรงพัก เมื่อไปถึง ตำรวจจ้งข้อกล่าวหาบุกรุก จับขังทันที จึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านเอาเงินจำนวน 5,000 บาท ไปประกันตัวออกมา ซึ่งทนายให้ย้ายออกจากบ้านภายใน 27 กุมภาพันธ์ 2563 นี้

เมื่อสอบถามเจ้าของบริษัทรถจักรยานยนต์ที่เกี่ยวข้อง ได้รับคำตอบว่า บริษัทให้ทนายฟ้องเรียกค่ารถคืนเท่านั้น สาบานได้ว่าไม่ได้ให้ทนายยึดทรัพย์ บริษัททำการค้ามานานกว่า 20 ปี ไม่เคยคิดทำแบบนี้ ส่วนเหตุการณถึงขั้นยึดบ้าน ที่ดิน คาดว่า ทนายน่าจะแอบทำเอง เพราะเพิ่งทราบว่าฟ้องเองและซื้อเอง แต่หากมีข้อสงสัย บริษัทพร้อมให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินระหว่างตนกับทนายได้ ว่าในช่วงประมูลซื้อบ้านและที่ดิน มีการเชื่อมโยงทางการเงินหรือไม่

ข่าวที่ 3 : ค่าฝุ่นพุ่ง! ไทยติดอันดับ 3 อากาศแย่สุดของโลก

สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองในประเทศไทยล่าสุด ติดอันดับ 3 ของโลก คุณภาพอากาศย่ำแย่ ตามมาตรฐานแล้วค่า AQI หรือค่าฝุ่นละอองในอากาศจะต้องไม่เกิน 100 แต่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาเมื่อเวลา 9.59 น. ค่าฝุ่นละอองประเทศไทยพุ่งทะยานถึง 184 ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก

เช้าวันนี้ (9 ม.ค.63) เวลา 05.00 น.แม้จะเป็นเวลาที่ประชาชนยังไม่ได้ทำกิจกรรมอย่างเต็มที่ ค่าฝุ่นละอองประเทศไทยสูงติดอันดับ 14 ของโลกด้วยระดับ AQI 159 ขณะที่ 10 อันดับพื้นที่ค่าฝุ่นละอองสูงสุดในประเทศไทยเวลา 05.00 น. ซึ่งหน่วยเป็นไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. ซึ่งถ้าเกิน 50 จะมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งมีพื้นที่ติดอันดับดังนี้

แขวงบึงกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. 81 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. / ริมถนนลาดพร้าว ซ.ลาดพร้าม 95 เขตวังทองหลาง กทม. 78 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. / ริมถนนพระราม 3 เขตยานนาวา กทม. 76 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. / ต.ปากน้ำ อ.เมือง สมุทรปราการ 75 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. / ริมถนนนวมินทร์ แยกบางกะปิ เขตบางกะปิ กทม. 74 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. / ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน กทม. 74 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. / แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. 73 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. / ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กทม. 73 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. / ริมถนนสามเสน เขตพระนคร กทม. 71 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. / แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. 70 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.

โดยนายกรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ได้ทวิตข้อความระบุให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ หลังฝุ่น PM2.5 กลับมามีผลกระทบต่อสุขภาพอีกครั้ง อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงพื้นที่โล่งแจ้ง ขอความร่วมมือผู้ใช้รถตรวจสภาพรถ และจะเร่งกวดขันจับกุมรถที่ปล่อยควันดำ ตรวจปริมาณควันจากโรงงานต่างๆ มากขึ้น ให้ร่วมไม้ร่วมมือช่วยกันอีกทางหนึ่งด้วย ติดตามได้ในรายการจามเจาะข่าว...