ข่าวที่ 1 : ล่าโจรชิงทองลพบุรี ตั้งค่าหัว 245,000 บาท
เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 9 ม.ค.63 เกิดเหตุชิงทรัพย์ร้านทองและมีการยิง รปภ.และผู้อยู่ในเหตุการณ์ เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บ 4 ราย เหตุเกิดภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี หมู่ 4 ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี บริเวณสามแยกบายพาส เลี่ยงเมืองลพบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นร้านเพชรทอง Aurora ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน พบร่างผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งผู้ใหญ่และเด็กนอนร้องครวญครางหลายราย จึงรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ท่ามกลางผู้ที่เดินจับจ่ายซื้อของต่างตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดหลายมุมจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะที่ประชาชนเดินจับจ่ายซื้อของในช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งเป็นช่วงใกล้ที่ห้างจะปิด จู่ๆ ก็มีคนร้ายเป็นชายใส่เสื้อดำ สูงประมาณ 166 ซม. สวมกางเกงลายพรางใส่รองเท้าคอมแบ็ต สวมหมวก ไอ้โม่งสะพายกระเป๋า เดินเข้ามาที่ร้านทองออโรร่า จากนั้นใช้อาวุธปืนเก็บเสียงขนาด 11 มม. ยิงเข้าที่หน้าอกซ้ายของพนักงานขายสตรีจำนวน 1 นัด จนล้มลงเสียชีวิตภายในร้าน และยิงกราดไปมาก่อนจะลงมือชิงทองรูปพรรณภายในร้าน จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว-แดง หลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรีได้วิทยุสกัดจับทั่วเมืองแต่ยังไร้วี่แวว
ความคืบหน้าในวันนี้ หลังจาก พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประกาศมอบรางวัลนำจับให้แก่ผู้แจ้งเบาะแส คนร้ายก่อเหตุชิงทองในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ลพบุรี จนนำไปสู่การจับกุม จำนวน 100,000 บาท แต่ล่าสุดตำรวจและประชาชนช่วยลงขันตั้งค่าหัวเพิ่มเป็น 245,000 บาท แล้ว
สำหรับจำนวนทอง ในตอนนี้ยังไม่ทราบว่าคนร้ายได้ไปจำนวนเท่าไร เบื้องต้นรู้เพียงว่าได้ทองไป 3 ถาด เป็นสร้อยคอทั้งหมดจำนวนที่แน่นอนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมกันนี้ฝากประชาชนว่าหากพบคนร้ายนำทองรูปพรรณ ลักษณะมีตัวอักษรคำว่า อนันต์96.5%K และ aurora ไปขายที่ใด แจ้งเบาะแสตำรวจทันที หากใครที่พบเบาะแสบุคคลต้องสงสัย สามารถโทรแจ้งเบาะแสได้ที่หมายเลข 081-4219249 หรือ 191
ข่าวที่ 2 : แฉ!ลุงขับแทรกเตอร์ เมียป่วยเป็นมะเร็ง เอาเงินบริจาคไปซื้อสาวขายบริการ
จากกรณีตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2563 เฟซบุ๊กชื่อมัฑลิกา อนาวงศ์ ได้โพสเรื่องราวของลุงคนนึงได้พาภรรยาที่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองขึ้นรถแทรกเตอร์ 2 ล้อมาจาก อ.แก้มสนามนาง จ.นครราชสีมา จอดไว้ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาและกางเต็นท์นอน แถมไม่มีเงินกินข้าวนั่งร้องไห้อยู่ข้างรถแทรกเตอร์ เจ้าของเฟซบุ๊คดังกล่าวจึงได้เกิดความสงสารบริจาคเงินและสิ่งของให้และแชร์เรื่องราวของลุงคนดังกล่าวขึ้นทำให้เป็นที่สนใจของคนในโซเชียลแห่กันไปบริจาคสิ่งของเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเฟซบุ๊คคุณวันชนะ อาญาเมืองได้โพสเรื่องราวเกี่ยวกับลุงคนดังกล่าวซึ่งเป็นอีกมุมว่าลุงคนนี้ได้นำเงินบริจาคที่ชาวบ้านเห็นว่าสงสารบริจาคให้กับนำเงินดังกล่าวไปซื้อหญิงขายบริการโดยมีคนถ่ายคลิปวิดิโอไว้ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา
โดยเนื้อหาในคลิปได้พูดว่าลุงคนดังกล่าวที่พาเมียมาหาหมอนี้แล้วพาใครมาอีกคน ซึ่งในคลิปผู้หญิงที่มาด้วยก็พูดคุยมาว่าเค้าซื้อบริการทางเพศและจะเปิดห้องขึ้นไปมีอะไรกันกับลุงสมพงษ์ จนกระทั่งเรื่องราวได้แชร์ไปคนต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเสียดายเงินบริจาคและไม่ขอบริจาคให้อีก ทั้งนี้ยอดบริจาคบัญชีของภรรยาของลุงสมพงษ์ตอนนี้เป็นจำนวนเงินแล้ว 8 หมื่นบาทแล้ว
ล่าสุดเมื่อสอบถามไปยังลุงสมพงษ์ ก็เปิดเผยว่า ตนเองขับแทรกเตอร์มาจากอำเภอแก้มสนามนางพาภรรยาที่ป่วยเป็นมะเร็งชื่อทวี การนอก อายุ 47 ปี มาที่โรงพยาบาลมหาราช ซึ่งวันนั้นเองลูกชายอายุ 15 ปีจะมาหาที่โรงพยาบาลตนเองก็ไม่อยากให้ลูกลำบากมานอนข้างนอกกับตนเอง จึงได้เดินทางไปเปิดห้องที่โรงแรมแห่งหนึ่งแถวอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ระหว่างที่เดินทางไปพบว่ามีหญิงขายบริการมาเสนอขอหลับนอนกับตนเอง แต่ว่าต้องมีค่าใช้จ่าย ตนเองจึงได้ตอบปฏิเสธไปเพราะตนเองจะพาลูกมานอน ทั้งนี้ตนเองก็ยืนยันไม่ได้ซื้อหญิงขายบริการตามที่เป็นคลิปหลุดไปในโซเชียล เป็นเรื่องเข้าใจผิด ส่วนเงินบริจาคตอนนี้ตนเองก็ไม่ทราบว่ากี่บาท เพราะคนที่ถือสมุดบัญชีตอนนี้ให้ทางโรงพยาบาลดำเนินการอย่างเดียว
ข่าวที่ 3 : จนท.ล้อมวงเล่นไฮโลกลาง อบต. ล่าสุดตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว
จากกรณีที่มีคลิปวีดีโอบันทึกเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ อบต.แห่งหนึ่ง ใน อ.พยัคภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เล่นการพนันไฮโล ภายในสำนักงาน อบต. ซึ่งคนที่บันทึกเหตุการณ์ได้บันทึกไว้ ขณะที่เค้าพยายามติดต่อภรรยาของตนเอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อบต. และร่วมวงพนันอยู่ ซึ่งผู้ถ่ายคลิปติดต่อภรรยาไม่ได้ จึงได้ไปตามที่ อบต. ก็พบว่า ภรรยา และเจ้าหน้าที่ใน อบต. กำลังล้อมวงเล่นไฮโลกันอยู่
ต่อมาคลิปที่ 2 พบว่า วงไฮโลได้ย้ายมาเล่นที่ชั้น 2 ของสำนักงาน และอีกคลิปเป็นการโต้เถียงกันระหว่างผู้ถ่ายคลิปกับนิติกรของ อบต. ซึ่งคลิปวีดีโอที่ถ่ายไว้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 62 โดยผู้ถ่ายคลิปได้มีการไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และได้ร้องเรียกเรื่องดังกล่าวต่อนายอำเภอพยัคฆภูมิพิสัยให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เรื่องก็ไม่คืบหน้าจนมีคลิปปรากฏตามสื่อ
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 มีการสอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังที่ว่าการอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม โดยได้พบกับ นายวรัญชัย ใจธรรม นามวงษา ท้องถิ่นอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย โดยได้ชี้แจงว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว ซึ่งสถานที่เกิดเหตุอยู่ที่ อบต.หนองบัว อ.พยัคภูมิพิสัย ส่วนผู้อยู่ในคลิปวีดีโอ เป็นพนักงาน อบต. ซึ่งได้ทำหนังสือเสนอต่อนายอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย เพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยมีปลัดอาวุโสเป็นประธาน ปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย ท้องถิ่นอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย เป็นกรรมการและเลขานุการ คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์ ซึ่งหากมีมูลความจริง ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ และลงโทษทางวินัยต่อไป ติดตามได้ในรายการจามเจาะข่าว
ขอขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก Workpoint news, Komchadluek