ผู้สื่อข่าวสำนักข่าว จาม ประจำจังหวัดสิงห์บุรี รายงานข่าวเจ้าอาวาสวัดดัง บางระจัน วอนให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องช่วยปลาหน้าวัด หวั่นปลานานาชนิดสูญพันธุ์ หลังน้ำลำแม่ลาลดลงอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 18 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสะเดา ม.1 ต.แม่ลา อ.บางระจัน จ. สิงห์บุรี หลังทราบข่าวว่า ลำแม่น้ำลาที่มีความยาวประมาณ 4.2 กิโลเมตร ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจนเห็นสันดอนดินกลางลำน้ำ และทำให้ปลานานาชนิดที่อยู่บริเวณสะพานชายท่าลอยหัวและได้สูญหายไปเป็นจำนวนมากจากแหล่งน้ำลำแม่ลาหน้าวัดสะเดาแห่งนี้

ปกติแล้ว จะมีปลาหลายหลากพันธุ์มาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาที่สำคัญของลำแม่ลา ลำน้ำที่เป็นแหล่งกำเนิดของปลาช่อนแม่ลา ที่เป็นที่รู้จักกันดี มีชื่อเสียงมานานนับสิบๆ ปี ตอนนี้กำลังประสบกับภัยแล้ง น้ำในลำแม่ลานั้นเหลือน้อยเกือบแห้ง ในบางช่วงก็แห้งขอด เหลือเพียงที่บริเวณหน้าวัดสะเดาที่ยังเป็นแอ่งใหญ่อยู่บ้าง

ด้านพระครู วรธรรมโสภณ เจ้าอาวาสวัดสะเดา เจ้าคณะตำบลเชิงกลัด เปิดเผยว่ากับผู้สื่อข่าวว่าบริเวณหน้าวัดแห่งนี้ ในช่วงที่มีน้ำมากจะมีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากแล้ว แต่ในช่วงนี้น้ำในลำแม่ลาแห้ง ก็ทำให้ปลามารวมกันมากขึ้น เพราะเป็นแอ่งน้ำกว้าง มีทั้งปลานิล ปลาช่อน ปลาสวาย ปลาบึก และปลานานาชนิดมารวมกันอยู่ ปลาบึกตัวขนาด 100 กว่ากิโลกรัมก็มีอยู่หลายตัว


พระครูวรธรรมโสภณ กล่าวต่อไปว่าในขณะนี้ ปลาในลำน้ำแม่ลากำลังขาดน้ำ ถ้ามีหน่วยงานไหนที่จะช่วยได้ควรเร่งช่วยเหลือด่วน คือ ตั้งเครื่องสูบน้ำจากแม่น้ำน้อย เข้าลำแม่ลา เพื่อให้ปลาได้มีชีวิตอยู่รอดและอนุรักษ์พันธุ์ปลาไว้ถ้าเป็นไปได้อยากให้ช่วยขุดลอกลำน้ำแม่ลาที่เป็นสันดอนออกเพื่อขยายแหล่งน้ำให้กว้างขึ้น เมื่อวาน ทางวัดได้ประสานกับประมงจังหวัดเพื่อที่จะหาทางช่วยปลาเหล่านี้ เบื้องต้นสำนักงานประมงจังหวัดสิงห์บุรี ได้ประสานกับชลประทานจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อขอให้ตั้งเครื่องสูบน้ำ มาสูบน้ำจากแม่น้ำน้อยเข้าใส่ลำแม่ลา เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำกับลำแม่ลาให้สามารถเป็นแหล่งอาศัยของปลาเหล่านี้ไปได้ก่อน ซึ่งคาดว่าต้นเดือนเมษายน 2564 คาดว่าจะเริ่มสูบน้ำได้


ด้านนายอรรคพล ยอดสร้อย นายก อบต.แม่ลา กล่าวเสริมว่า จากการตรวจขณะนี้ ลำน้ำแม่ลา ยังเหลือแอ่งน้ำ ล่อเลี้ยงคลองอยู่ 3 จุด คือหน้าวัดแหลมคาง บริเวณหน้าอุทยานประชานุสรณ์ และหน้าวัดสะเดา ซึ่งก็น่าเป็นห่วง ถ้าปล่อยเฉยนานมากนัก เสียดายปลา ที่อาศัยอยู่ ลำแม่ลา 3 จุดแหล่งน้ำนี้ จะสูญพันธุ์ไป และหวั่นว่า จะเกิดการลักลอบจับปลาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรณีดังกล่าว ตนเองรับทราบปัญหามาโดยตลอดปัญหาคือเกิดจาก ภัยแล้ง ชลประทานไม่สามารถส่งน้ำให้กับลำแม่ลาได้ 2 ปีติดต่อกัน ปีนี้ดูแล้วจะหนักกว่าทุกปีแต่อย่างไรก็ตาม ก็กำลังประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้อยู่ นายอรรคพล ยอดสร้อย นายก อบต.แม่ลา กล่าวทิ้งท้าย...



เรื่องและภาพโดย วัชรพล เมืองมั่น ทีมข่าวภูมิภาค จาม ประจำจังหวัดสิงห์บุรี