พบกับเรื่องราวที่จะทำให้ทุกหัวใจยิ้มหัวเราะและน้ำตาไหลไปกับ คุณแม่สุดแกร่งแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน "ฟุตาบะ" ได้เรียนรู้ว่าเธอมีเวลาเหลืออยู่เพียง 2 เดือนเท่านั้นก่อนที่เธอจะต้องลาจากโลกนี้ไป
เมื่อเธอเหลือเวลาไม่มากนัก เธอเลือกที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำภารกิจ 4 อย่างคือ 1.ตามหาสามีที่หายตัวไป 2. ซ่อมแซมธุรกิจโรงอาบน้ำ 3. ทุกคนต้องสู้ต่อไปได้ และภารกิจสุดท้ายที่ยังเป็นความลับเล็กๆ ที่ยังไม่บอกใคร ที่ทุกคนจะได้ไปร่วมลุ้นในโรงภาพยนตร์
เกี่ยวกับเรื่องราว
สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีตัวตนโดดเด่นกว่าเรื่องอื่นคงเป็นซีนที่ อาซูมิ (ฮานะ ซูกิซากิ) โดนเพื่อนแกล้งเอาสีป้ายไปทั้งชุดนักเรียนของเธอ เมื่อเธอร้องไห้เพราะโดนกลั่นแกล้ง เธอวิ่งกลับไปหาแม่ของเธอ (เร มิยาซาวา) แต่แทนที่แม่ของเธอจะปลอบใจหรือโกรธแทนลูก เธอกลับถามลูกว่า "ลูกชอบสีอะไรล่ะ" ซึ่งฉากนี้น่าจะเป็นฉากที่ชัดเจนที่สุดว่าหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนที่มองโลกในแง่ดี ผู้เป็นแม่ไม่ได้โกรธแทนหรือสงสารลูก แต่เธอกลับมองเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่สวยงาม สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราจะเห็นชัดในหนังเรื่องนี้มาก
"นี่เป็นเรื่องของการมองโลกในแง่ดี" เรียวตะ นากาโนะ ผู้กำกับภาพยนตร์และเขียนบทภาพยนตร์กล่าว "ผมเริ่มเขียนมันด้วยการจินตนาการของผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดีมากคนหนึ่ง แต่ถ้าวันหนึ่งเรื่องราวกลับถาโถมเข้ามาที่เธอ อะไรคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตเราได้ คำตอบก็คือ ชีวิต "ภาพยนตร์เล่าเรื่องถึงผู้หญิงผู้เป็นแม่ที่กำลังจะต้องจากโลกนี้ไป คนทั่วไปอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องร้ายแรงแต่สำหรับเธอแล้ว เธอต้องการที่จะเปลี่ยนมันให้กลายมาเป็นโอกาส เธอมองว่าเธอสามารถพาคำว่าครอบครัวของเธอกลับคืนมา และแน่นอนเธอต้องมั่นใจด้วยว่าก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป เธอได้ทำหน้าที่ของผู้เป็นแม่ได้ดีที่สุดแล้ว
เรียวตะ นากาโนะ เขียนบทและกำกับภาพยนตร์
เรียวตะ นากาโนะ คือผู้เขียนบท และ กำกับภาพยนตร์เรื่อง Her Love Boils Bathwater ซึ่งนี่เป็นภาพยนตร์คอมเมอร์เชียลเรื่องแรกของเขาหลังจากที่เคยทำหนังอิสระมาจากเรื่อง Capturing Dad ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่ที่ส่งลูกสองคนไปเยี่ยมพ่อของพวกเขาที่กำลังจะตาย หนังทั้งสองเรื่องเป็นหนังที่พูดถึงเรื่องราวของครอบครัว ความสัมพันธ์ของพ่อ แม่ ลูก ที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ถ่ายทอดมันด้วยเรื่องราวและอารมณ์ในมุมมองต่อโลกที่ดี
ภาพยนตร์ของ นากาโนะ มักจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ในภาพยนตร์คุณจะได้พบกับอารมณ์ขัน ที่ไม่ได้เป็นมุขตลกแบบโปกฮา แต่มันแฝงไปด้วยความตลกจากตัวละคร หรือ สถานการณ์ที่ตัวละครมองโลกในแง่ดี ผลลัพธ์คือมันมีความตลกแบบอบอุ่น ที่สุดท้ายเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งของหนัง มุขตลกที่อบอุ่นนั้น จะกลายเป็นสิ่งที่เรียกน้ำตาของคุณได้อย่างลงตัว
เมื่อถามถึงความสำเร็จและการเล่าเรื่องราวแบบนั้น หลายคนสงสัยว่าหรือนี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง หรือมีประสบการณ์ตรงจากเรื่องที่เล่านี้หรือเปล่า นากาโนะ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เขากล่าวว่า "ผมจะไม่ทำหนัง หรือเล่าเรื่องอะไรก็ตามที่เขาไม่เคยรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เขาชอบที่จะเล่าเรื่องจากสิ่งเขาเข้าใจได้เป็นอย่างดี และทุกครั้งที่ผมทำมัน ผมจะถ่ายทอดมันได้อย่างเต็มที่ ผมบอกไม่ได้ว่าสิ่งที่เกิดในหนังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผม แต่ความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหนัง มันแทบจะไม่ต่างกับชีวิตของเขาเลย" นากาโนะเติบโตมาด้วยการเลี้ยงของแม่เพียงลำพัง พ่อของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก
บทภาพยนตร์ที่ทำให้โปรดิวเซอร์รู้สึกอยากร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องนี้
โปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์ คาซูมิ ฟูกาเซะ กล่าวด้วยความรู้สึกท่วมท้นเมื่อเขากล่าวถึงภาพยนตร์เรื่อง Her Love Boils Bathwater "นี่เป็นบทภาพยนตร์ที่ผมรู้สึกว่าอิ่มมาก ทั้งๆ ที่พล็อตเรื่องมันจะต้องดราม่า เพราะเป็นเรื่องที่แม่กำลังจะตาย แต่กลับกลายเป็นว่าบทหนังทั้งเรื่องมองโลกในแง่ดี จนมันทำให้เรายิ้มได้ทั้งเรื่อง และเมื่อตอนใกล้จบเรากลับใจหาย" บทภาพยนตร์ที่ คาซูมิ ได้อ่านครั้งแรกนั้นทำให้เขาไม่ลังเลที่จะร่วมโปรดิวซ์ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ "ผมเห็นมุมมองในตัวเขา เมื่อคุณได้คุย กับนากาโนะ คุณจะรู้ทันทีว่าเขาเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมาก แต่เขาก็มีความโศกเศร้าในแววตาเขามากเช่นกัน" คาซูมิ ให้เหตุผลเพิ่มเติมในการชมบทภาพยนตร์เรื่องนี้อีกว่า "บทมันค่อยๆ เล่าเรื่อง อย่างใจเย็น โครงสร้างถูกสร้างอย่างระมัดระวัง จนบทสรุปสุดท้าย มันเป็นการตอบโจทย์ที่ยอดเยี่ยมมากๆ เขาค่อนข้างมั่นใจว่า ว่าถ้าหากมันได้รับการถ่ายทอดอย่างดีจนกลายมาเป็นภาพยนตร์ บทภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจไปได้ไกลจนถึงผู้ท้าชิงรางวัลในเวทีต่างๆ ได้อย่างแน่นอน"
เรื่องราวของครอบครัวผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยม
เรื่องราวหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้คือความรักระหว่างแม่ที่กำลังจะเสียชีวิต ครอบครัวของเธอที่ต้องดิ้นรนชีวิตต่อไป ก่อกำเนิดเป็นเรื่องราวที่สะท้อนอารมณ์และเปี่ยมไปด้วยน้ำตาและรอยยิ้มในการใช้ขีวิตอยู่ นักแสดงที่รับบทเป็นแม่คือ
เร มิยาซาว่า ในบท ฟูบาตะ ซาชิโน่ เธอบอกว่าบทภาพยนตร์ทำให้เธอ "ใจสั่นคลอน" เธอตัดสินใจรับบทนี้ทันทีหลังจากได้อ่านบทภาพยนตร์เรื่องนี้จบ เธอคือนักแสดงที่มีที่เสียงอย่างมากหลังจากได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวที เจแปน อคาเดมี จากภาพยนตร์เรื่อง Pale Moon ในปี 2014 และด้วยความสามารถและการหลงรักในตัวละครนี้ เธอได้สร้างตัวละครอย่าง ฟูบาตะ ขึ้นมา โดยมีส่วนผสมของความอ่อนโยน เข้มแข็ง และใจดีต่อทุกคนรอบข้างเธอ
อีกหนึ่งนักแสดงที่มารับบทลูกสาวอย่าง อาซูมิ คือ นักแสดงดาวรุ่งอย่าง ฮานะ ซูกิซากิ เธอเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด การแสดงที่ยอดเยี่ยมของเธอที่ต้องแสดงออกถึงความโตเป็นผู้ใหญ่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่แม่ของเธอกำลังจะเสียชีวิต
ผู้รับบทเป็นพ่อ อย่าง คาซูฮิโร่ ซาชิโน่ รับบท โดย โจ โอดากิริ เขาเป็นผู้ชายที่พึ่งพาอะไรไม่ได้ ไร้ความรับผิดชอบ แต่ผู้ชมจะตกหลุมรักเขาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
โรงอาบน้ำ ซาชิโนะ ยู
อีกหนึ่งจุดเด่นหลักของเรื่องคือโรงอาบน้ำ ซาชิโนะ ยู ที่ใช้สถานที่ถ่ายทำถึง 2 ที่ ที่แรกถ่ายทำภายในของโรงอาบน้ำถ่ายทำที่ ซูกิโน ยู โรงอาบน้ำสาธารณะที่ทำด้วยไม้ ในโตเกียว ซึ่งน่าเสียดายว่ามันได้ปิดตัวลงแล้วเมื่อเดือน พฤษภาคม ปี 2015 ภายหลังจากที่ได้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้เสร็จสิ้น
ซูกิโน ยู อยู่ตรงตรอกแคบๆ ที่ทีมงานไม่สามารถเก็บภาพภายนอกออกมาได้ พวกเขาจึงต้องหันไปถ่ายทำอีกที่หนึ่งคือ ฮานะโน ยู ในเมือง อาชิคากะ แทน เป็นที่น่าแปลกใจเพราะโรงอาบน้ำแห่งนี้ยังคงเปิดให้บริการแม้ว่าจะมีกองถ่ายทำมาถ่ายอยู่ก็ตาม ทีมงานจึงแอบติดป้ายดักไว้หน้าร้านว่า "เจ้าของหายตัวไป ดังนั้นมันจะไม่มีน้ำร้อนในตอนนี้" ทำให้ลูกค้าคนอื่นๆ คิดว่าน้ำไม่ร้อนจริงๆ และเมื่อถ่ายทำระหว่างวันเสร็จสิ้น ทีมงานและผู้กำกับจึงได้แอบยึดสถานที่แห่งนี้อาบน้ำแช่น้ำร้อนอย่างผ่อนคลายหลังจากที่เหนื่อยล้าจากการถ่ายทำมาทั้งวัน
ทำไมถึงต้องเกี่ยวข้องกับโรงอาบน้ำ
เรียวตะ นากาโนะ ไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจโรงอาบน้ำ หรือแม่ของเขาเองก็ไม่ได้ทำธุรกิจนี้เช่นกัน แต่ทำไมถึงได้เล่าเรื่องราวเรื่องนี้ผ่านเรื่องราวของโรงอาบน้ำ เรียวตะ นากาโนะ กล่าวว่า "ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการโรงอาบน้ำสาธารณะ หลายๆ ครั้งผมได้เข้าไปคุยกับคนหลากหลาย และบ่อยครั้งที่ทำให้ผมคิดว่าผมสนิทกับคนเหล่านี้เพราะอะไร" นากาโนะ ตั้งคำถามว่าอะไรคือคำว่าครอบครัวที่แท้จริง ในโลกปัจจุบัน คนเราถ้าจะเรียกครอบครัว มันไม่ใช่เรื่องของ สายเลือดเท่านั้น ที่เราจะเรียกใครสักคนว่าครอบครัว "ผมมองว่าคนที่ผมเรียกว่าครอบครัวนั้น ง่ายๆ เลย คือคนที่เราทานข้าวร่วมกันบนโต๊ะอาหาร คนที่เราอยากแชร์ประสบการณ์ หรือคนที่ต้องการแบ่งปันเรื่องราวของเขาให้เราฟัง ผมเรียกเขาว่าครอบครัว" นากาโนะ กล่าว นอกจากนั้นโปรดิวเซอร์อย่าง คาซูมิ กล่าวเพิ่มเติมความคิดนี้ด้วยว่า "มีหลายๆ ครอบครัวที่เรียกว่าเป็นพ่อแม่ลูกกันทางสายเลือด ทว่าพวกเขาแทบจะไม่นั่งทานข้าวร่วมกันบนโต๊ะอาหาร หลายครอบครัวไม่ได้สนิท ไม่ได้เล่าเรื่องต่างๆ หรือพูดกันตรงๆ ผมมองว่านั่นคือปัญหา สลับกันบางครอบครัวที่ต่างพ่อต่างแม่ หรือบางคนไม่ได้เป็นครอบครัวแต่เป็นเพื่อนสนิทกัน มานั่งร่วมแลกเปลี่ยนความคิดกัน ผมมองว่านั่นต่างหากที่เรียกว่าครอบครัว"
ธุรกิจโรงอาบน้ำ ก็เปรียบเสมือนกับโต๊ะทานข้าว ผู้คนมากมายเข้ามา โดยที่ไม่ได้ผูกพันกันทางสายเลือด แต่โรงอาบน้ำสาธารณะ เปิดรับต่อทุกคน ไม่มีการปิดกั้น คนเราก็เช่นกัน เมื่อเราเปิดรับใครเข้ามาทานอาหารร่วมกันแล้ว คนๆ นั้นร่วมแชร์ประสบการณ์ ความรู้สึกที่มีต่อกัน เมื่อนั้น คำว่า ครอบครัว จึงเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ เช่นกัน
ชื่อเรื่อง : Her Love Boils Bathwater 60 วัน เราจะมีกันตลอดไป
ประเภท : Drama / Comedy
ความยาว : 125 นาที
กำหนดฉาย : 6 เมษายน 2560
บริษัทจัดจำหน่าย : โมโนฟิล์ม
เขียนบท / กำกับ : เรียวตะ นากาโนะ
แสดงนำ : เร มิยาซาว่า, ฮานะ ซูกิซากิ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
