สำนักข่าวคมชัดลึก รายงานว่า สำนักงานนายอำเภอเคนต์ เคาน์ตี รัฐมิชิแกน สรุปว่า ศพเด็กหญิง 3 รายกับมารดาวัย 28 ปีที่พบหน้าบ้านหลังหนึ่งในดาร์ สปริงส์เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นเหตุฆาตกรรมและฆ่าตัวตาย โดยเด็ก 3 คนถูกฆาตกรรม ส่วนมารดาฆ่าตัวตาย
ออเบรียนเน มัวร์ คุณแม่วัย 28 ปี ใช้ใบนัดแพทย์ที่ทำปลอมขึ้นมา ไปรับ อาไลนา ราว วัย 2 ขวบ แคสซิดี โรเดอรี วัย 6 ขวบ และไครี โรเดอรี วัย 8 ขวบ ออกจากโรงเรียนก่อนเวลาเลิกเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว
จากนั้น เธอขับรถพาลูกๆ ไปรับประทานอาหารกลางวัน และเดินทางไปบ้านตายายของเด็ก ที่นั่นเอง เธอใช้ปืนยาวล่าสัตว์ของแฟนหนุ่ม ยิงลูกสาวทีละคนในป่าหลังบ้าน ก่อนนำศพเด็กทั้งสามคนใส่รถ ขับไปที่หน้าบ้านแฟนของเธอ ใกล้กับเมืองซีดาร์ สปริงส์ และไปฆ่าตัวตายตามที่นั่น
ก่อนเกิดโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ อดีตเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ที่ดูแลมัวร์ ได้เคยเตือนพฤติกรรมของเธอผ่านคำร้องถึงศาลท้องถิ่นว่า มัวร์ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวช มัวร์ตื่นทั้งคืน กลัวว่าจะมีคนบุกเข้าไปในบ้าน และไม่ยอมกินเพราะคิดว่าอาหารมียาพิษ นอกจากนี้ แม่ลูกสามยังไม่ยอมให้ลูกไปโรงเรียน โดยบอกว่ารู้จากโทรศัพท์ว่าจะมีอุบัติเหตุรถนักเรียน
แพทย์วินิจฉัยว่ามัวร์ เป็นโรคจิตเภท และมีอาการประสาทหลอนรุนแรงทางการได้ยินและมองเห็น ผลจากอาการป่วยทางจิตเช่นนี้ อาจทำให้ผู้ป่วยก่อเหตุทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวได้ในอนาคตอันใกล้
ตำรวจกล่าวว่า แม่ที่ตกอยู่ในอาการหวาดระแวงคิดว่าตนเองกำลังปกป้องลูกๆจากอันตรายบางอย่าง
มิเชล ลาจอย-ยัง นายอำเภอเคนต์ เคาน์ตี กล่าวว่า นี่เป็นคดียากที่สุดเท่าที่เคยประสบมาตลอดการทำงาน 29 ปี พนักงานสอบสวนรู้สึกใจสลายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โจเซฟ เกรแฮม ลุงของเด็กทั้งสามที่เสียชีวิต เปิดเพจบนเวบไซต์ GoFundMe เพื่อระดมทุนค่าจัดงานศพ ถึงค่ำวันอาทิตย์ยอดบริจาคเกือบแตะ 1 หมื่นดอลลาร์แล้ว
ขอบคุณภาพคลิปและข้อมูลจาก komchadluek
