จากกรณีที่ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร ที่ถูกศาลออกหมายจับมาแสดงตนนับองค์ประชุม ณ รัฐสภา ด้าน ส.ส.เทพไท ถามหาคนรับผิด ผู้ต้องหาออกหมายจับเข้าประชุมสภา
4 ธ.ค. 62 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีนายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถูกออกหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา เพื่อนำตัวไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 15 มกราคม 2563 และได้มาปรากฏตัวในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้นั้น ถือได้ว่าเป็นผู้ต้องหาที่กระทำความผิดโดยมีหมายจับอย่างชัดเจน เมื่อมีการปรากฏตัวเกิดขึ้นเช่นนี้เ ผู้หน้าที่ในการจับกุม ก็ต้องเร่งจับกุมตัวผู้กระทำผิดส่งศาลจังหวัดพัทยาให้ได้ แต่เมื่อ นายไวพจน์อาภรณ์รัตน์มาปรากฎตัวที่อาคารรัฐสภา จะต้องพิจารณาในข้อกฎหมายว่า มีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 189 หรือไม่
ซึ่งมาตรา 189 ได้มีบทบัญญัติไว้ว่า ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เพราะฉะนั้นถ้าการปรากฏตัวของนายไวพจน์อาภรณ์รัตน์ ที่อาคารรัฐสภาในวันนี้หากเป็นความผิดตามมาตรา 168 แห่งประมวลกฎหมายอาญา จะต้องตั้งคำถามว่า ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความผิดตามมาตรานี้ ถือว่าเป็นการให้ที่พักพิงหรือ พบตัวผู้กระทำผิดแล้วไม่แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตามกฏหมาย จะมีความผิดหรือไม่ ซึ่งจะต้องสอบข้อเท็จจริงกับบุคลากรของรัฐสภาที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ รปภ. หรือตำรวจสภา จนถึงประธานวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ไวพจน์ ได้เข้าร่วมประชุมสภาญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบคำสั่งคสช.และม.44 โดยแสดงตน แต่เมื่อถึงเวลาโหวตไม่ได้ออกเสียง ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภา และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ยืนยันตรงกันว่า พ.ต.ท.ไวพจน์ไม่สามารถใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองของส.ส.ได้แล้ว เนื่องจากศาลตัดสินคดีถึงที่สุด อย่างไรก็ตามหลังปิดประชุมสภา ไม่ปรากฏตัวพ.ต.ท.ไวพจน์แต่อย่างใด.
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เทพไท เสนพงศ์ , WorkpointNews