จากกรณีที่ดินของ น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในส่วนที่เป็นพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) 682 ไร่ ที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกันในข้อกฎหมายว่า เมื่อส่งมอบคืนที่ดินแล้วถือว่าจบไม่ต้องดำเนินคดี หรือยังต้องถูกดำเนินคดี ด้าน นายวิษณุ ชี้ ที่ดิน ปารีณา ถ้าเป็น ส.ป.ก.ส่งมอบคืนถือว่าจบ ยกเทียบกรณีเขายายเที่ยง
วันที่ 10 ธ.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ดิน ส.ป.ก. ว่า เรื่องที่ดิน ส.ป.ก. ปัญหาอยู่ที่ว่าพื้นที่นั้นเป็นที่ดิน ส.ป.ก.หรือไม่ ถ้าใช่ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งเหมือนสมัยก่อนที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้คืนไปแล้วก็จบ
ทั้งนี้ ที่ดิน ส.ป.ก. ตอนไปเอามานั้นไม่ผิด เพราะถือครองไม่ได้ เมื่อถือครองไม่ได้ก็คืน แต่พื้นที่บางอย่างตอนไปเอามานั้นผิด เมื่อคืนไปความผิดก็สำเร็จ กฎหมายแต่ละเรื่องไม่ได้ยึดหลักเดียวกันไปเสียหมด
เมื่อถามว่า รัฐบาลใช้ช่องทางการเป็นที่ดิน ส.ป.ก. ช่วยเหลือ น.ส.ปารีณา หรือไม่ นายวิษณุ เผยว่า ตามกฎหมายระบุว่าเมื่อเป็นที่ดินที่ซื้อมาแล้วต้องมอบคืน ซึ่งการมอบคืนถือเป็นบทลงโทษของคนที่ซื้อมา โดยที่รัฐไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว เป็นบทลงโทษที่ดีกว่าบทลงโทษทางอาญาที่จะต้องถูกปรับ
สำหรับกรณีของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกอ้างถึง คือ การครอบครองที่ดินบ้านพักบริเวณเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและมีผู้ไปร้องว่าบุกรุกป่า ต่อมาอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง และให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแทน โดยให้เหตุผลว่าเป็นการซื้อต่อมา ขาดเจตนากระทำผิด
ผู้ครองครองเดิมคือ นายเบ้า สินนอกและบุตรเขย ซึ่งนายเบ้าก็ซื้อต่อมาอีกทอดหนึ่งโดยไม่มีเอกสารสิทธิและระบุว่าไม่ทราบว่าอยู่ในเขตป่าสงวน
ต่อมาในปี 2518 คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดสรรที่ดินบริเวณเขายายเที่ยง ให้เป็นที่ดินทำกินครอบครัวละไม่เกิน 15 ไร่ โดยให้ตกทอดถึงทายาทได้ แต่ไม่ให้นำไปซื้อขาย อย่างไรก็ตาม ปี 2538 นายเบ้าและบุตรเขย ขายที่ดินรวม 20 ไร่ต่อให้นายนพดล พิทักษ์วาณิชย์ และภายหลังมีการขายต่อให้ พ.อ.สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ ซึ่งเป็นผู้รับช่วงเสียภาษีบำรุงท้องที่และไปขอเลขที่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และภายหลังชื่อผู้ครองครอง รวมทั้งเสียภาษีที่ดิน คือ ท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยาของ พล.อ.สุรยุทธ์
อย่างไรก็ตาม หลังมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.อ.สุรยุทธ์ บุกรุกป่า พนักงานสอบสวน มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เพราะพิจารณาว่าขาดเจตนากระทำผิด เนื่องจากเป็นการครอบครองต่อจากผู้ครอบครองรายแรกที่ชอบด้วยกฎหมาย ขณะเดียวกันนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในขณะนั้น ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการที่นายเบ้า ที่นำที่ดินมาขายต่อฝ่าฝืนเงื่อนไขการครอบครองว่า ไม่มีบทลงโทษผู้ฝ่าฝืน ส่วน พล.อ.สุรยุทธ์ ที่ซื้อที่ดินไป ก็ไม่มีความผิดเช่นกัน แต่ไม่มีสิทธิครอบครอง ทั้งนี้ภายหลังได้มีการรื้อถอนบ้านทั้งหมดและส่งมอบคืนที่ดินดังกล่าว
ขอลคุณภาพและข้อมูลจาก WorkpointNews