เป็นที่ทราบกันดีว่าแต่ละยุค แต่ละสมัยของรัฐมนตรีทุกคนย่อมได้รับฉายาจากสื่อมวลชลกันต่าง ๆ นานา ซึ่งการตั้งฉายาให้กับรัฐบาลและรัฐมนตรีเริ่มมีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่บางปีก็เว้นวรรคเพราะเป็นช่วงรอยต่อรัฐบาล ไปดูกันว่าใครได้ฉายาอะไรบ้าง และฉายานักการเมืองที่ดำรงตำแหน่งกันปัจจุบันนี้ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง หากผู้อ่านเป็นผู้ตั้งคิดว่า ฉายาใดที่เหมาะสม (ขอแบบสุภาพนะคะ)
1. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ปี 2544 "เศรษฐีเหลิงลม" หลังพ้นข้อกล่าวหาซุกหุ้น ได้แสดงออกว่าต้องการบริหารประเทศ 8 ปี มีการใช้อำนาจอย่างมั่นใจ หากถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือติติง มักจะตอบโต้ด้วยท่าทีแข็งกร้าวและฉุนเฉียว นอกจากนั้นการได้ควบคุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จทั้งในและนอกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง คล้ายๆ คนที่กำลังเหลิงในอำนาจที่ตนเองมีอยู่
ปี 2545 "เทวดา" จากสไตล์เชื่อมั่นในตนเองสูง หากใครท้วงติงมักจะถูกตอบโต้กลับอย่างรุนแรง ว่าไม่มีความรู้ ขาดความเข้าใจ เสมือนเป็นเทวดาที่ยึดติดความคิดตนเองที่ถูกต้องเพียงผู้เดียว
ปี 2546 "นายทาส" เป็นผู้ประกาศปลดปล่อยประชาชนให้พ้นจาก "พันธนาการ" ความยากจน ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล และพ้นจากทาสไอเอ็มเอฟ แต่กลับนำกลไกของรัฐมาสร้างพันธนาการใหม่ให้กับประชาชนด้วยนโยบาย "ก่อหนี้" ทุกรูปแบบ ทั้งยังส่งเสริมระบบเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน เปรียบประหนึ่งว่ากำลังสนับสนุนค่านิยมเสี่ยงโชค อาจส่งผลให้ประชาชนต้องตกเป็นทาสการพนันไปในที่สุด
ปี 2547 "ผู้นำจานด่วน" ปี 2548 "พ่อมดมนต์เสื่อม" Pm2.5
2. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาควบคุมอำนาจในนาม คสช.ตั้งแต่ปี 2557 และอยู่เป็นนายกรัฐมนตรียาวถึง 5 ปี โดยระหว่างนั้น ไม่มีการตั้งฉายาใดๆ เพราะถือเป็นรัฐบาลที่มาจากภาวะไม่ปกติ
ปี 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จะได้รับฉายาจากสื่ออย่างเป็นทางการ หากผู้อ่านเป็นผู้ตั้งคิดว่า ฉายาใดที่เหมาะสม (ขอแบบสุภาพนะคะ)
3. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2554 และผ่านการตั้งฉายาจากสื่อมวลชน 2 ครั้ง
ปี 2554 "นายกฯ นกแก้ว" มาจากความสวยที่โดดเด่น ดุจดั่งนกแก้วที่มีสีนสวยงาม แต่กลับไม่สามารถบินไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง ต้องมีพี่เลี้ยงคอยดูแลตลอด ได้แค่พูดตามบทที่เขียนไว้เท่านั้น โดยที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงอะไรและพูดผิดพูดถูกอยู่ตลอด
ปี 2555 "ปูกรรเชียง" มาจากชื่อเล่นคือ “ปู” ซึ่งมีลักษณะ เดินเซไปเซมา ไม่ตรงทาง ในการบริหารงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ต้องแบกภาระ และใบสั่งจากพี่ชายชื่อทักษิณ พี่สาว (เจ๊ ด.) แม้แต่คนรอบข้างก็คอยลากไปลากมา ทำงานไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม ได้แต่เดินโชว์ไปโชว์มา เมื่อมีปัญหาทางการเมือง ก็มักจะตีกรรเชียง ลอยตัวหนีปัญหา
4. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลให้ฉายา ปี 2552 "หล่อหลักลอย" ภาพลักษณ์ดี หน้าตาดี การศึกษาดี จึงมีแม่ยกเป็นจำนวนมาก มักประกาศจุดยืนและหลักการด้านประชาธิปไตย เมื่อรับตำแหน่งได้ประกาศกฎเหล็ก 9 ข้อให้ ครม. มีความรับผิดชอบทางการเมืองมากกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย แต่เมื่อรัฐมนตรีบางคนมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย หรือมีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใส กลับไม่ได้แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง นั่นเท่ากับไม่สามารถกำกับให้กฎเหล็กมีผลใช้บังคับได้ หลักที่เคยประกาศไว้จึงเหมือนคำพูดที่เลื่อนลอย ไม่เป็นไปตามหลักการที่วางไว้
ปี 2553 "ซีมาร์คโลชั่น " ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก วิกฤติความขัดแย้งทางสังคมทั้งระดับประเทศ ลงไปถึงระดับครอบครัว เปรียบเสมือนผู้ป่วยหนักที่ต้องการยารักษาโรคให้หายขาด บางปัญหาต้องทำการผ่าตัด-ปรับโครงสร้าง-เปลี่ยนอวัยวะ สังคมคาดหวังว่านายกฯ จะเข้ามาแก้ไขปัญหาและรักษาอาการของประเทศได้ แต่ผลการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ ยังทำได้ผลเพียงการบรรเทาโรค เปรียบเสมือนการใช้ “ซีม่าโลชั่น” ทาแก้คันเท่านั้น
5. นายชวน หลีกภัย ประธานสภา
ปี 2536 "จอมฟุตเวิร์ก" จากลีลาการทำงานที่ถูกวิจารณ์ว่าเชื่องช้า ยึดติดกับหลักการทำให้การตัดสินใจไม่ทันใจ เมื่อเกิดความขัดแย้งมักเลือกใช้การปล่อยให้เดินไปตามขั้นตอน หรือให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบเป็นผู้ตัดสินใจเอง
ปี 2542 "นายประกันชั้นหนึ่ง" มาจากการที่รัฐบาลมักเอาคุณสมบัติเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตมาการันตี โดยเฉพาะช่วงที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่รัฐบาลในขณะนั้นก็ได้ฉายาว่า "รัฐบาลชวนเชื่อ"
6. บรรดารัฐมนตรีใน ครม.ประยุทธ์ หากผู้อ่านเป็นผู้ตั้งคิดว่า ฉายาใดที่เหมาะสม (ขอแบบสุภาพนะคะ)
บรรดารัฐมนตรีใน ครม.ประยุทธ์ 2 คนดังมีทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในรายชื่อฉายาจากผู้สื่อข่าวค่อนข้างแน่
7.ฝั่งสภาผู้แทนราษฎรมี ส.ส.และอดีต ส.ส. หากผู้อ่านเป็นผู้ตั้งคิดว่า ฉายาใดที่เหมาะสม (ขอแบบสุภาพนะคะ)
ฝั่งสภาผู้แทนราษฎรมี ส.ส.และอดีต ส.ส. ที่มีความโดดเด่นหลายคน แต่ที่ชิงพื้นที่ในหน้าข่าวต่อเนื่องติด Top3 ไม่พ้น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ นอกจากนั้นยังมีทั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, นายสิระ เจนจาคะ, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก WorkpointNews