จากกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาตำหนิ นักท่องเที่ยวบางคนที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ด้วยการปฏิเสธรับหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ระหว่างการลงพื้นที่ทำกิจกรรมรณรงค์ป้องกันไวรัสโคโรนา บริเวณชานชาลา สถานีรถไฟฟ้าสยาม
ล่าสุด นายอนุทิน ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเหตุการณ์จริงเบื้องหลังที่เกิดขึ้นทั้งหมดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
"ผมไม่โกรธที่โดนด่า โดนวิจารณ์หยาบคาย
ผมไม่รู้สึกผิดขณะที่แสดงอารมณ์ และใช้คำพูดกับ"ฝรั่ง" คนนั้น ที่ไม่ให้เกียรติคนไทย และ มองเห็นมาตรการควบคุมโรคของ ประเทศไทย เป็นเรื่องน่ารังเกียจ ตลก ขบขัน
ผมมั่นใจว่า 100% ของคนที่ด่าและวิจารณ์ผม ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม และคณะแพทย์ของกระทรวงสาธาร ณสุข ที่ทำกิจกรรมรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโค โรนา ในเช้าวันนี้
เพราะผมรู้ว่าคนที่ด่าและวิจารณ์ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ผมจึงไม่โกรธ แต่ รู้สึกเสียใจที่มีการแปลเจต นาของผม ผิดพลาดจากที่ผมต้องการจะสื่อสาร
ผมเพียงแต่จะบอกว่า ถ้าคนต่างชาติคนนั้น หรือคนไหนก็ตาม ไม่พร้อมจะปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขไทย ไม่ควรจะเข้ามาในประเทศไทย ในช่วงเวลานี้ ซึ่งเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
ไม่เพียงไม่ให้ความร่วมมือ แต่ยังเห็นสิ่งที่เราทำเป็น เรื่องน่ารังเกียจ ปัดมือผมที่ยื่นหน้ากากอนามัย ให้ด้วยความปรารถนาดี
และห่วงใย และแสดงท่าทีดูถูกเหยียดหยามความปรารถนาดีของคนไทย
ผมไม่รู้สึกผิดที่ตอบโต้ ผ่านสื่อมวลชน ไปยังคนต่างชาติคนนั้น และคนอื่นๆ ที่ดูอยู่ เพื่อให้ได้รับทราบเจตนาของ ผมในฐานะคนไทย ที่ต้องรับผิดชอบต่อมาตรการ ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ อโรค
ผมอดทน อดกลั้นมากพอที่จะไม่ตอบโต้ กับคนต่างชาติคนนั้น ด้วยท่าทีแบบเดียวกับที่เขา ทำกับผม และคณะแพทย์ของกระทรวงสาธาร ณสุข
ผมเป็นคนไทยที่ไม่เคยยอมให้ ต่างชาติมาแสดงท่าที อาการเหยียด และดูถูกคนไทย
ผมมีเพื่อนต่างชาติเยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนดีที่ไม่เหยียดคนไทย แต่ต่างชาติบางคนที่แสดงท่า ทีเหยียดคนไทย ผมไม่นับเป็นเพื่อน
ในบางประเทศ ในช่วงเวลานี้ มีข้อห้ามคนต่างชาติมากมาย แต่ในประเทศไทย เราเพียงขอให้ใส่หน้ากากอนา มัย เพื่อป้องกันตัวเอง และป้องกันคนอื่น ติดเชื้อ เท่านั้น เพราะเราไม่รู้ว่าใครเดินทางมาจากไหน ก่อนมาประเทศไทย
บางประเทศ ไม่รับคนจีนเข้าประเทศ แต่รับคนจากชาติต่างๆ เข้ามาอย่างไม่ระมัดระวัง ปรากฎว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ เพิ่มมากขึ้นกว่าประเทศไทย เพราะเรามีมาตรการควบคุมโรค แบบของเรา ทำให้สถานการณ์ของเรา ดีกว่าบางประเทศ ในภูมิภาคนี้
เราทำด้วยความปรารถนาดี และห่วงใย คนไทย และคนต่างชาติเกือบ 100% ที่ได้รับหน้ากากอนามัย วันนี้ ยิ้มและขอบคุณรัฐบาลไทย ที่นำมาแจกให้ป้องกันตัวเอง มีเพียงรายเดียวที่เป็นกรณี ปัญหา
ผมขออภัยที่แสดงอาการไม่เหมาะสมผ่านสื่อมวลชน ซึ่งมีผู้ชมหลากหลายรุ่นวัย แต่ผมไม่มีวันขออภัยคนต่างชาติคนนั้น ที่ไม่ให้เกียรติ และรังเกียจ มาตรการควบคุมโรคของประเทศไทย
ผมจะทำงานของผม ตามแนวทางของผมต่อไป จนกว่าประเทศไทย และคนไทย จะก้าวข้ามภาวะวิกฤติทางสุข ภาพนี้ ไปได้ด้วยความปลอดภัย
อ้อ วานสื่อฝรั่งที่อุตส่าห์แปลคำสัมภาษณ์ผมเมื่อเช้าเป็นซับไตเติ้ลซะดีเชียว ให้แปลข้อความนี้ให้ผมด้วยละกัน"
ขอบคุณข้อมูลจาก Anutin Charnvirakul,กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข