" 4 กุมาร"แถลงลาออก"พลังประชารัฐ" นายอุตตม เผย ตัดสินใจยุติบทบาททางการเมืองในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยจะยังคงทำหน้าที่รัฐมนตรีในครม.ต่อไป ย้ำไม่ได้ยึดติด ยังไม่คิดตั้งพรรคการเมืองใหม่
เวลา 12.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา เซ็นทรัลลาดพร้าว นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน , นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ได้แถลงลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
นายอุตตม กล่าวว่า การทำงานด้านการเมืองที่ผ่านมาได้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้ตั้งไว้แล้ว คือ การสนับสนุนให้บุคคลที่เหมาะสม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ถือว่าบทบาททางการเมืองได้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้แล้ว จึงลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค
"และขณะนี้พรรคพลังประชารัฐ ก็มีความก้าวหน้าในการสร้างพรรคเป็นสถาบันการเมือง มีคนมาจากหลายสาย ตอนนี้ภารกิจทางการเมืองได้บรรลุแล้ว และขณะนี้มีกรรมการบริหารพรรคที่จะนำพรรคเดินต่อได้ จึงคิดว่าถึงเวลาเหมาะสมของพวกเราในการยุติในพรรคพลังประชารัฐ อย่างไรก็ตามในส่วนพรรคพลังประชารัฐ เราก็จะสนับสนุนงานต่อไปในส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน"
ส่วนบทบาททางการบริหารประเทศในฐานะรัฐมนตรี จะยังคงทำหน้าที่ต่อไป ยังคงทำหน้าที่ในด้านบริหาร ทำงานใน ครม.ต่อไป วันนี้ยังอยากทำงานเพื่อชาติเพื่อประชาชน ที่กำลังเผชิญกับความท้าทาย สถานการณ์โควิด19
ด้าน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พวกเราไม่ใช่นักการเมืองวันที่เข้ามาสู่การเมือง ตั้งพรรคพลังประชารัฐ เพราะเชื่อมั่นว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุด ในการเป็นนายกรัฐมนตรี ในช่วงรอยต่อ ซึ่งทุกคนได้ทำงานอย่างเต็มที่ ทุกอย่างเดินหน้า จนบรรลุเป้าหมายมาวันนี้บทบาททางการเมืองสามารถเปลี่ยแนปลงได้ตลอด เพราะทางกลุ่มไม่ได้ยึดติดกับการเมือง หากดูจากอดีตทั้งหมด อะไรที่เป็นประโยชน์ แต่แค่ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ซึ่งการทำหน้าที่ในฝ่ายบริหารจะยังคงทำงานอย่างเต็มที่ต่อไป ส่วนบทบาทจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ก็ไม่ได้ยึดติด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การลาออกจากสมาชิกได้แจ้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายอุตตม บอกว่า ไม่ได้แจ้ง การแถลงวันนี้ก็คงจะทราบผ่านสื่อไปพร้อมๆกัน
นาย สนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า เราแยกแยะบทบาทระหว่างบทบาทในพรรคและตำแหน่งบริหาร บทบาทในครม.เป็นอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมมนตรี เรายุติบทบาทในพรรค แต่ก็ยังทำหน้าที่ในหน้าที่รัฐมนตรี ที่จะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งพรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สิ่งที่อยากเห็นในภายภาคหน้า คือ การเห็นพรรคพลังประชารัฐป็นพรรคการเมืองที่เข้มเเข็ง
"การลาออกจากสมาชิกพรรค ไม่ตัดขาดสายใยต่างๆ ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่ได้ขัดแย้งกัน"
เมื่อถามว่า ทั้ง 4 ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐได้แจ้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาหรือไม่ นายสนธิรัตน์ บอกว่าได้แจ้งให้นายสมคิดทราบแล้ว นายสมคิดให้กำลังใจ บอกว่าเคารพการตัดสินใจ และ ให้กำลังใจทุกคน
นักข่าวถามว่าจะตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือไม่ นาย สนธิรัตน์ บอกว่า การทำงานการเมืองไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล ตัวบุคคลเป็นเรื่องรอง ความตั้งใจเป็นเรื่องหลัก อนาคตยังไม่ทราบ แต่การทำงานเพื่อบ้านเมืองไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคการเมืองเสมอไป อย่าไปกังวลใจเรื่องพรรคการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทใดก็ช่วยกันหารือ และพร้อมที่ช่วยกัน พร้อมยืนยันว่า ยังไม่มีการตั้งพรรคใหม่
นักข่าวถามว่า ทั้ง4คนจะกลับมาร่วมกันทำงานกันอีกหรือไม่ นายอุตตม บอกว่า ทั้ง4มีความผูกพันธ์กันมา เชื่อว่า ความผูกพันธ์ จะทำให้มีโอกาสที่จะร่วมมือกันอย่างแน่นอน นายสนธิรัตน์ เสริมว่า การทำงานการเมืองไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล ตัวบุคคลเป็นเรื่องรองความตั้งใจ ความมุ่งมั่น เป็นเรื่องหลัก ทั้ง4เข้ามาสู่การเมือง และทำงานกันอย่างเต็มที่ อนาคตยังไม่ทราบ แต่หากเป็นประโยชน์ก็พร้อม การทำงานเพื่อบ้านเมืองไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคการเมืองเสมอไป อย่าไปกังวลใจเรื่องพรรคการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทใดก็ช่วยกันหารือ และ พร้อมที่ช่วยกัน พร้อมยืนยันว่า ขีดเส้นใต้ ย้ำว่ายังไม่มีความคิดการตั้งพรรคใหม่
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก คมชัดลึก