"นายกฤษฎา" จี้ "ประยุทธ์" เร่งช่วยเหลือ SMEs ก่อนตายกันหมด ชี้ ปัญหาหลัก คือขาดสภาพคล่อง ขายของไม่ได้ ไม่มีตลาด แนะ 6 มาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ และต้องแก้ไขครบวงจร ชี้ หากธุรกิจ SMEs ปิดตัวแล้ว การเริ่มต้นใหม่จะยากมาก เศรษฐกิจไทยจะย่ำแย่ไปอีกนาน
นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ สส. หนองคาย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรม คณะทำงานทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจ SMEs ประสพปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก และ กำลังจะย่ำแย่ถึงขนาดกำลังจะตายกันหมด ปัญหาหลักคือ การขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง การขายสินค้าและบริการไม่ได้ ขาดตลาดรองรับ ซึ่งสถานการณ์เป็นมานานแล้ว โดยเฉพาะมาซ้ำเติมอย่างหนักช่วงวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด ดังนั้น คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอทางช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับธุรกิจ SMEs 6 มาตรการ ดังนี้
- 1. เร่งให้ซอฟต์โลน 1 ล้านล้านบาท ดอกเบี้ย 0% ช่วยเหลือภาคธุรกิจ SMEs ซึ่งรวมถึง SMES อุตสาหกรรม และ SMEs ท่องเที่ยวด้วย เพื่อให้ประคองธุรกิจไปได้ โดยต้องมีเงื่อนไขของการรักษาการจ้างงาน เพื่อแก้ปัญหาการว่างงานและรัฐบาลเองอาจจะสนับสนุนบางส่วนในการจ้างงานด้วย ทั้งนี้จะต้องเลือกด้วยว่าธุรกิจใดจะรอดพ้นและสามารถฟื้นตัวได้หลังโควิด เพราะหลายธุรกิจอาจจะต้องปิดตัวอยู่แล้วจากภาวะ disruption ของโลก โดยรัฐบาลต้องรับผิดชอบในกรณีที่เกิดหนี้เสีย เพราะปัจจุบันการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทยในวงเงิน 5 แสนล้านบาท มีการช่วยเหลือไปเพียงแสนกว่าล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้เพราะธนาคารพาณิชย์ไม่กล้าปล่อยกู้เพราะกลัวหนี้เสีย ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเข้าไปช่วยค้ำประกันให้ แต่ทั้งนี้ต้องระวังการทุจริตและการช่วยพวกพ้องแล้วเกิดความเสียหายแบบตั้งใจทุจริต
- 2. การเร่งเปิด Travel Bubble กับประเทศที่มีระดับการระบาดน้อยในระดับเดียวกับประเทศไทย เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังจะย่ำแย่
- 3. การเปิดด่านการค้าชายแดนให้สะดวกในการค้าขาย โดยลดขั้นตอนพิธีศุลกากรเพื่อให้ง่ายในการค้าขายระหว่างชายแดน ซึ่งจะช่วยธุรกิจ SMEs ให้ขายสินค้าได้มากขึ้น
- 4. ขอชื่นชม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้เริ่มต้นออกมาตรการเพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า ธปท. ต้องการเห็นค่าบาทที่อ่อนค่าลง แต่หากไม่ได้ผล เงินบาทไม่อ่อนค่าเพียงพอ ก็หวังว่า ธปท. จะออกมาตราการเพิ่มเติมเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
- 5. เร่งเจรจาเขตการค้าเสรี ทวิภาคี และ พหุภาคี เพื่อให้สินค้าจากประเทศไทยสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้โดยไม่โดนเก็บภาษี หลังจากที่สหรัฐตัด จีเอสพี ไทย 2 ครั้งในปีนี้
- 6. เร่งเจรจา 5 ทูต คือ สหรัฐ อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย ที่ได้ออกมาแนะนำประเทศไทยในการแก้ไขปัญหา และเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะปัญหาศุลกากร และ ปัญหาซ้ำซ้อนของหน่วยงานรัฐ รวมถึงการเร่งปรับระบบราชการเป็นระบบดิจิตอล
นี่เป็นมาตรการเร่งด่วน 6 มาตราการ เพื่อช่วยเหลือ ธุรกิจ SMEs ในช่วงภาวะวิกฤตนี้ และอยากให้รัฐบาลเร่งทำก่อนที่ธุรกิจ SMEs จะพากันปิดตัวกันหมด ซึ่งจะทำให้เกิดการว่างงานจำนวนมาก และ หนี้เสียในภาคธนาคารจะเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก ซึ่งหากธุรกิจ SMEs ปิดตัวแล้ว การเริ่มต้นใหม่จะยากมาก เศรษฐกิจไทยจะย่ำแย่ไปอีกนาน ซึ่งจะตรงข้ามกับที่รัฐบาลได้อ้างว่าเศรษฐกิจไทยกำลังจะฟื้น ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะมีมาตรการพิเศษโดยเฉพาะเพื่อช่วยเหลือ SMEs แบบครบวงจร โดยได้เตรียมร่างนโยบายไว้แล้ว เพราะพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าการพัฒนาธุรกิจ SMEs เป็นแนวทางหลักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย
