สิระกล่าวถึงกรณีแกนนำม็อบราษฎร ปฏิเสธไม่เข้าร่วมประชุมสำคัญ ลั่นไม่กล้าเผชิญหน้าความจริง เชื่อมีเบื้องหลังสั่งม็อบไม่ให้เข้าร่วม แนะประชาชนจับตาดู ก่อม็อบเพื่อปฏิรูปหรือเพื่อผลประโยชน์ตนเอง
วันที่ 16 ธ.ค. 2563 ณ อาคารัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีข้างต้นที่ว่าด้วยการเชิญ 4 แกนนำราษฎร ประกอบไปด้วย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์, นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง และ นายอานนท์ นำภา หรือ ทนายอานนท์ เพื่อมาชี้แจงต่อกรรมาธิการเป็นครั้งที่ 2 แต่กลับได้รับแจ้งจากนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่าทุกคนจะไม่มาร่วมประชุมในบ่ายวันนี้
นายสิระได้มองว่าการเชิญมาพูดคุยกันในครั้งนี้ หาใช่เกมการเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นการพูดคุยทำความเข้าใจโดยมีกรรมาธิการเป็นเวทีกลางแก่ทุกฝ่ายที่ขัดแย้งให้เข้ามาพูดคุยกัน ซึ่งน่าจะเป็นการดีกว่าปล่อยให้มีการชุมนุมกันบนท้องถนนและสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน "การปฎิเสธไม่เข้าร่วมการประชุมกรรมาธิการในวันนี้ ผมไม่ทราบว่านี่คือสัญญาณความขัดแย้งของบรรดาแกนนำ ที่อาจนำมาซึ่งจุดจบของม็อบหรือไม่ ที่หลายฝ่ายในม็อบเริ่มมีปัญหาทั้งเรื่องเงินทุนสนับสนุน ข้อเรียกร้องที่แตกต่างกัน และอีกหลายความขัดแย้งภายในม็อบ จึงเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมแกนนำเหล่านี้ถึงไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับโลกของความเป็นจริง ก็เพราะเมื่อเจอความจริงแล้วไม่สามารถชี้แจงได้ รวมถึงอาจจะมีการโยนความผิดให้กันเอง" นายสิระกล่าว
ทั้งนี้ นายสิระยังได้กล่าวต่อว่า ในอีกมุมหนึ่งตนมองว่าการไม่เข้าร่วมประชุมของแกนนำราษฎรนี้ เพราะมีอีแอบเบื้องหลังม็อบคอยออกคำสั่งให้ไม่มาเข้าร่วมประชุม เพราะกลัวว่าความจริงจะเปิดเผย ตนเลยอยากให้ประชาชนช่วยกันพิจารณาข้อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปของม็อบ ที่เมื่อมีโอกาสให้มาร่วมพูดคุยกันแล้ว แกนนำกลับไม่สนใจและไม่ทำ เหมือนข้อเรียกร้องเหล่านี้เป็นเพียงฉากบังหน้า ซึ่งเบื้องหลังอาจมีการหาผลประโยชน์ก็เป็นได้ แต่ที่ตนรู้คือต่อไปนี้ แกนนำทุกคนจะต้องรับกรรมที่ก่อไว้อย่างแน่นอน...