นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงกรณีหลายคนมีข้อสงสัย ที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงคนรวยจากโทรคมนาคม เมื่อปี 2530 นักข่าวถามเปลี่ยนทรงผม เพราะอยากให้ดูหนุ่มเหมือนทักษิณ ที่ออกมาต่อยมวยโชว์ความฟิตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า อย่าเอ่ยชื่อได้ไหม เขาไม่ได้อยู่ในประเทศ
วานนี้ (9 ก.พ. 64) เวลา 13.30 ณ โถงตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยถึงดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทย (CPI) ว่า ได้มอบหมายให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างส่วนราชการและภาคประชาชน ซึ่งได้ข้อสรุปให้มีการกำหนดมาตรการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละหน่วยงานปฏิบัติตาม พรบ. การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 โดยมี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเป็นหน่วยงานดูแล และให้มีการปรับปรุงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ซึ่งเป็นการประเมินที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้สะท้อนคะแนนของ CPI มากยิ่งขึ้น โดยมอบให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการดูแล
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีย้ำให้หน่วยของภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกถึงผลงานในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน โดยเฉพาะคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เช่น คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่มีความก้าวหน้าตามลำดับโดยมีการฟ้องร้องคดีใหม่อีกครั้งและประสานงานกับต่างประเทศเพื่อออกหมายแดง ซึ่งสามารถติดตามข้อมูลได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจำนวนคดีทุจริตที่มีมากขึ้นแต่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตามกระบวนการยุติธรรมจะต้องมีหลักฐานในการดำเนินคดี
ทั้งนี้ นายกนายกได้กล่าวถึงเรื่องเศรษฐกิจว่า ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 จากพึ่งพิงรายได้ภาคการเกษตรเพียงอย่างเดียว ในปี พ.ศ. 2530 ได้พัฒนาปรับปรุงการลงทุนภาคอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งได้มีการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุม โดยตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่มีข้อสงสัยว่า ที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงคนรวยจากโทรคมนาคม เมื่อปี 2530 จนมีการตีความว่าหมายว่า พาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการพูดถึงเรื่องของเศรษฐกิจไทยโดยการเปรียบเทียบระหว่างปี 2520 และ 2530 ต้องการให้เห็นว่าการพัฒนาประเทศของเรามีการเปลี่ยนแปลงมาอย่างไรจากที่เป็นประเทศที่มีรายได้จากภาคการเกษตรเพียงอย่างเดียวจากปี 2520 มาถึงปี 2530 ก็ได้มีการพัฒนาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น จนมาถึงทุกวันนี้โดยมีสินค้าทั้งสองประเภทคือเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ขอร้องอย่าตีความในสิ่งที่ตนพูดไปเรื่องอื่น
เมื่อมีการถามว่า ที่เปลี่ยนทรงผม เพราะอยากให้ดูหนุ่มเหมือนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ออกมาต่อยมวยโชว์ความฟิตโชว์ต่อยมวยหรือไม่ "พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า อย่าเอ่ยชื่อได้ไหม เขาไม่ได้อยู่ในประเทศ"
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก EasyYukhon