วานนี้ พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา กล่าวถึงการประท้วงเป็นครั้งแรกในที่สาธารณะ ว่า "บุคคลไร้ยางอาย" คนที่ไม่คำนึงถึงศีลธรรม ร่วมการหยุดงานในขบวนการอารยะขัดขืน ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนล้มเหลว โดยขอให้ผู้ที่ผละจากหน้าที่กลับไปปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยทันที เพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชน โดยไม่มุ่งเน้นที่อารมณ์
ขณะที่บรรยากาศทั่วเมียนมา มีการชุมนุมประท้วงต่อเนื่อง ทั้งที่เนปิดอว์ ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ รัฐฉาน และในอีกหลายเมือง โดยผู้ชุมนุมมาจากทุกสาขาอาชีพ ทั้งคนงาน นักแสดงในโรงละคร ฯลฯ และมีการรวมตัวกันของชนกลุ่มน้อย ส่วนที่ญี่ปุ่น ชาวเมียนมารวมตัวจุดเทียนประท้วง ที่หน้ามหาวิทยาลัยสหประชาชาติ นอกจากนั้นผู้ที่ถูกกองทัพจับกุมและคุมขังในช่วงรัฐประหาร เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้มากกว่า 200 ราย และมีท่าทีว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และวันนี้ประชาชนชาวเมียนมายังคงออกมาเรียกร้องอย่างต่อเนื่องสำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมชาวเมียนมา ที่รวมตัวคัดค้านการทำรัฐประหารรัฐบาลนางอองซาน ซูจี โดย พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.พ.ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
อย่างไรก็ตามมีการรายงานว่าเมื่อเช้าวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้มีการแชร์รูปภาพชาวอินทาชนเผ่าพื้นเมือง ชาวประมง ประชาชน และผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับทะเลสาบอินเล เมืองยองชเว เขตตองยี ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมาได้ออกมาแสดงอารยะขัดขืนและประท้วงการทำรัฐประหาร แต่การประท้วงในครั้งนี้ต่างออกไปจากการเดินขบวนตามท้องถนน เพราะประชาชนชาวเมียนมาร์ได้ออกมาประท้วงกันบนเรือที่จอดอยู่ในทะสาบร่วม 4,500 คน ซึ่งชาวเมียนมาบอกว่านี่คือ การประท้วงแบบลอยน้ำครั้งแรกของโลก
โดยประชาชนแต่งกายด้วยชุดท้องถิ่น พร้อมกับชูสามนิ้ว และป้ายประท้วงเขียนข้อความต่างๆ ไว้บนไม้พายและชูเรียกร้องประชาธิปไตย อาทิ “เผด็จการออกไป” “เราไม่ยอมรับรัฐประหาร” “save myanmar” “การแทรกแซงของจีนจงออกไป” “เราไม่ต้องการเผด็จการ” “เราต้องการใช้ชีวิตโดยปราศจากความกลัว” “เราไม่ต้องการให้ทหารขึ้นมามีอำนาจ” “ปล่อยผู้นำของเรา”
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก EasyYukhon