จิราพร ชี้ ลเอกประยุทธ์ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อสู้คดีที่เกิดจากความผิดพลาดของตัวเองสามารถเอาไปใช้โดยไม่ลังเล แต่พอเป็นเงินที่ต้องเอามาสู้โควิดให้ประชาชนกลับพยายามใช้อย่างประหยัด
เมื่อวานนี้ (2 มิถุนายน 64) จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วาระที่ 1 ว่า มีข่าวลือว่า การเจรจาลับกรณีเหมืองทองอัคราที่รัฐบาลพยายามปกปิดได้จบลงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งข่าวลือนี้ดูแล้วเหมือนจะมีเค้าความจริง เนื่องจากในร่างงบประมาณรายจ่ายปี 2565 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ได้มีการตั้งงบประมาณเพื่อต่อสู้คดีเหมือนปีที่ผ่านๆ มา ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่าการเจรจาระหว่างบริษัทคิงส์เกตและประเทศไทยจะจบลงภายในปีงบประมาณ 2564
จิราพร กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ได้ทราบข่าวว่า รัฐบาลไทยและบริษัทคิงส์เกตจะหารือร่วมกันเพื่อนัดวันออกคำชี้ขาด (award) ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมาแต่หลังจากที่ตนได้อภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือน พลเอกประยุทธ์ไม่เคยชี้แจงกับประชาชนถึงความคืบหน้าอย่างตรงไปตรงมา และหลังจากนั้นยังมีข่าวว่าพลเอกประยุทธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปกปิดข้อมูลอย่างแน่นหนากว่าเดิม
ดังนั้นจึงอยากให้ พลเอกประยุทธ์ ได้แจ้งกับประชาชนว่าขณะนี้คดีความเหมืองทองอัครามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง และให้ช่วยชี้แจงกับประชาชนว่าที่ดินเกือบ 600,000 ไร่ ที่เคยไปสัญญาว่าจะยกให้บริษัทเอกชนต่างชาติเพื่อเข้ามาสำรวจแร่และทำเหมืองทองเพิ่มเพื่อแลกกับการถอนฟ้องคดี จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อ หรือในกรณีที่ไทยยอมแพ้คดี พลเอกประยุทธ์จะเอางบประมาณส่วนใดไปจ่าย จะเป็นงบจาก “เงินทุนสำรองจ่าย” ตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ มาตรา 45 ที่เหมือนเป็นการตีเช็คเปล่าอีกใบที่มีจำนวนสูงถึง 50,000 ล้านบาท ให้พลเอกประยุทธ์ไปใช้โดยไม่ต้องผ่านสภาหรือไม่ หรือพลเอกประยุทธ์จะเอาเงินส่วนตัวไปจ่าย เหมือนที่เคยลั่นวาจาไว้ว่าจะรับผิดชอบคดีนี้เอง
ทั้งนี้ หนังสือกระทรวงอุตสาหกรรม ลับที่สุด ด่วนที่สุด ที่ อก 0507/ล1846 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2561 เรื่องรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัทคิงส์เกตคอนเซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ในหน้าที่ 7 ปรากฎรายละเอียดการตั้งกรอบงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัทคิงส์เกตฯ ปีงบประมาณ พ.ศ.2560-2564 จำนวน 731,130,000 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561 ซึ่งมีข้อสังเกตว่าแม้แต่เงินที่ใช้ในการต่อสู้คดีพลเอกประยุทธ์ยังมาเบียดบังงบประมาณแผ่นดิน ดังนั้นหากไทยแพ้คดีจึงไม่มีทางที่พลเอกประยุทธ์จะควักเงินตัวเองจ่ายแน่นอน
“ตอนที่พลเอกประยุทธ์ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อสู้คดีที่เกิดจากความผิดพลาดของตัวเองสามารถเอาไปใช้โดยไม่ลังเล แต่พอเป็นเงินที่ต้องเอามาสู้โควิดให้ประชาชนกลับพยายามใช้อย่างประหยัด เมื่อครั้งที่ต้องจองวัคซีนผ่านโครงการ Covax ซึ่งใช้เงินมัดจำเพียงราว 800 ล้าน ถึงหลักพันล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินพอๆ กับที่รัฐบาลตั้งงบไว้สู้คดีเหมืองทองอัครา กลับลังเลไม่กล้าดำเนินการเพื่อประชาชน พลเอกประยุทธ์ได้ให้ค่าชีวิตคนไทยเกือบ 70 ล้านคน น้อยกว่าเงินที่ใช้ต่อสู้คดีเหมืองทองอัคราเพื่อตัวเองเพียงแค่คนเดียวเสียอีก” จิราพรกล่าว
