สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 64 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” พานายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ชาวบ้านกกกอก จ.มุกดาหาร และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ภรรยา เข้ายื่นหนังสือกับ นายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ตรวจสอบ และขอความเป็นธรรมให้นายไชย์พล วิภา
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ขึ้นอภิปรายชี้แจงการออก พ.ร.ก เงินกู้เพิ่ม 5 แสนล้านบาท ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และกล่าวต่อว่าถึงการอภิปรายขับไล่นายกฯของฝ่ายค้านในสภาว่าเหมาะสมหรือไม่ รวมไปถึงเหตุการณ์การแถลงข่าวของนายไชย์พลและนายสิระ ” โหวกเหวกด่านายก ไล่นายกออกไปซักที มันใช่เวทีไหมผมไม่รู้เหมือนกัน ผมก็ไม่รู้ว่าที่รัฐสภาแห่งนี้ทำอะไรได้บ้าง ท่านประธานก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เมื่อกี้ก็ไปแถลงข่าวกันข้างล่าง เอาผู้ต้องหามาแถลงคดีใต้ถุนสภา มันอะไรประเทศไทย ผมไม่รู้ ท่านประธานดูแลไม่ไหวหรอกครับ ทุกคนต้องช่วยกัน ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ล่าสุด วันนี้ 11 มิ.ย. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว ว่า นายสิระ ไม่รู้หน้าที่ และกรณีดังกล่าวไม่ใช่หน้าที่ของกมธ.กฎหมาย เพราะงานในหน้าที่คือ การศึกษาข้อเท็จจริงด้านกฎหมาย ส่วนการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เป็นหน้าที่ของกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ หากไม่ใช่งานในหน้าที่ควรส่งให้กมธ.ที่มีหน้าที่ดำเนินการ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตำหนินายสิระ ว่า พรรคพลังประชารัฐ ตั้งนายสิระ เป็นประธานกมธ.การกฎหมาย เพื่อตอบแทนที่นายสิระ เคยมาเป็นกมธ.ปราบโกง เพื่อป่วนการตรวจสอบ นายกรัฐมนตรี กรณีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ดังนั้น สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ด่านายสิระ เท่ากับนายกรัฐมนตรีด่าตัวเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก EasyYukhon