“เพื่อไทย” ถาม “ประยุทธ์” ต้องให้คนทั้งประเทศไหว้ขอให้ออกไหมถึงจะยอมไป ชี้ 7 ปียังเละขนาดนี้ อยู่ต่ออีก 5 ปี ไทยจะไม่เหลืออะไร ทำลายโฉมเพิ่มขึ้นมากกว่าพลิกโฉม แนะ ผู้นำต้องมีวุฒิภาวะ มีสมอง มียุทธศาสตร์ที่ปัจจุบันไม่มี
วันที่ 14 ตุลาคม นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงทุนออกมาแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ นั่นคือการเป็นนายกรัฐมนตรีที่เลื่อนลอย ไม่อยู่กับร่องกับรอย และไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถืออะไรให้กับประชาชนได้เลย พล.อ.ประยุทธ์พูดว่าจะสามารถเปิดประเทศได้ภายใน 120 วัน วันนี้ครบกำหนด 120 วันแล้วที่ต้องเปิดประเทศแต่ก็เปิดไม่ได้
ตรงกับก่อนหน้านี้ที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ เคยออกมาซัด พลเอกประยุทธ์ ว่าขายฝัน และท้าว่าถ้าหากครบ 120 วันเปิดประเทศไม่ได้ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อรับผิดชอบกับความล้มเหลวในการบริหารประเทศและผิดคำพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก สมควรเอาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคืนให้กับประชาชน จนบรรดาคนรายล้อมของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่างดาหน้าเข้ามาถล่มนายพิชัย แล้ววันนี้จะรับผิดชอบอะไรต่อประชาชน เพราะสิ่งที่นายพิชัยเคยพูดเอาไว้คือความจริงทั้งหมด
“ใครจะคิดว่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีจะเป็นคนพูดอะไรเรื่อยเปื่อย เหมือนเด็กเดินขายพวงมาลัย เดินขายไปเรื่อย วันประกาศเปิดประเทศก็ไม่มีแผนรองรับ ประชาขนยังฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพไม่ถึง 60% จน พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกมาขอเลื่อนเปิดประเทศเป็นวันที่ 1 พ.ย. อีก ยิ่งกว่าลูกหนี้ขอผลัดหนี้เจ้าหนี้ เวลานี้คนไทยทั้งประเทศต้องการนายกรัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถที่เป็นความหวังและโอกาสของประเทศ ไม่ใช่ประเภทขาดความรับผิดชอบ ขาดวุฒิภาวะ ขาดสมอง ไร้สมรรถภาพผู้นำ มีแต่จะพัง
“7 ปีของการเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนต้องตกอยู่ในสภาพกำลังอดตาย ทรัพย์สินที่สะสมมาทั้งชีวิตถูกนำมาขายจนไม่มีอะไรเหลือให้ขาย บางคนฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจ รวมทั้งชีวิตของประชาชนที่ต้องมาเสียชีวิตเพราะโรคโควิด-19 กี่ครอบครัวที่เขาต้องเสียบุคคลสำคัญในครอบครัวไปไม่ทันร่ำลา น้ำตายังไม่ทันแห้งต้องจัดงานศพและเผาศพอย่างรีบเร่ง แต่น้ำตาสักหยดยังไม่สะเทือนไปถึงข้างในของคนเป็นนายกรัฐมนตรี
ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ยังอยากอยู่ต่ออีก 5 ปีประชาชนจะอยู่ในสภาพไหน ทำลายโอกาสของประชาชนและอนาคตของเด็กรุ่นต่อไปให้ถอยหลังไปอีกเท่าไหร่ ยิ่งในยามนี้ประชาขนต้องมาถูกซ้ำเติมไปอีกด้วยราคาน้ำมันแพงลิ่ว เงินกองทุนน้ำมัน 20,087.42 ล้านบาทพล.อ.ประยุทธ์โอนไปเข้าเป็นรายได้รัฐ ซึ่งไม่ถูกตามวัตถุประสงค์ของกองทุนน้ำมัน ควรต้องนำมาคืนประชาชนเพื่อแทรกแซงราคาน้ำมันตอนนี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชน เพราะถ้าหากราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด เกิดผลกระทบใหญ่ต่อเศรษฐกิจไทยแน่
“พี่โทนี่พูดในรายการคลับเฮ้าส์เมื่อคืนที่ผ่านมา เห็นผลงาน 7 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ หนี้ SMEs 3.17 ล้านล้านบาท แต่กลายเป็นหนี้เสียพุ่งเกือบ 7.64% งบประมาณก็ขาดดุลมหาศาล หนี้สาธารณะนี่ไม่ต้องพูดถึง รัฐบาลเก่งแต่กู้ทำหนี้สาธารณะทะลุ 9 ล้านล้านบาทไปแล้ว ตั้งงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้นอีก ขนาด 7 ปียังพังขนาดนี้ อีก 5 ปีคงพินาศสันตะโรกันทั้งชาติ ยาเสพติดระบาดทั้งเมือง เกษตรกรถูกซ้ำเติม สินค้าการเกษตรตกต่ำที่สุด การศึกษาถอยหลังลงคลอง ระบบสาธารณสุขพัง จะมีอะไรที่เหลือให้ประชาชนได้หายใจต่อแบบมีความหวังได้อีก
ต้องถึงขั้นให้คนยกมือไหว้พร้อมกันเพื่อขอให้ออกไปจากนายกรัฐมนตรีก่อนหรือถึงกระตุ้นต่อมสำนึกรับผิดชอบของพล.อ.ประยุทธ์ หรือจะปล่อยประชาชนตามยถากรรมและคนจนตายหมดทั้งประเทศจริงๆ” นางสาวตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย