นางมนพร เจริญศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดนครพนม รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนได้รับผลกระทบอย่างมากจากปัญหาค่าครองชีพที่สูงมาก เงินเฟ้อสูง ข้าวของแพง น้ำมันแพง ไฟฟ้าแพง ก๊าซหุงต้มแพง หมูแพง ไข่แพง น้ำมันปาล์มแพง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแพง สินค้าทุกชนิดที่เกี่ยวกับการประทังชีวิตของประชาชนแพงหมด
แต่รายได้ประชาชนไม่เพิ่ม ค่าแรงไม่เพิ่ม ราคาสินค้าเกษตรไม่เพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก การค้าขายฝืดเคือง เป็นหนี้เป็นสินกันถ้วนหน้า ไม่รู้จะหาที่พึ่งจากที่ใด เงินที่เคยพอจะเก็บสะสมไว้ในอดีตก็หมดไปในช่วงวิกฤตไวรัสโควิดแล้ว แถมยังต้องไปกู้หนี้ยืมสินกันจนหนี้ล้นพ้นตัว เงินช่วยเหลือของรัฐบาลก็น้อยนิดใช้แป๊ปเดียวก็หมดแล้ว ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน
ดังนั้น ในภาวะหลังจากวิกฤตไวรัสโควิด และประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จึงอยากเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ได้เห็นใจและช่วยเหลือประชาชนในการให้โอกาสประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ เพื่อจะนำมาทำทุนในการประกอบอาชีพ เพื่อประทังชีวิตตนเองและครอบครัว อีกทั้งหารายได้เพื่อใช้หนี้ที่ค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากไม่มีทุนเข้ามา ก็จะไม่สามารถหารายได้กลับมาได้ การกู้ธนาคารก็ยากเย็นแสนเข็น จะกู้เงินนอกระบบก็ถูกคิดดอกเบี้ยมหาโหด พวกที่ติดหนี้นอกระบบอยู่ก็แบกกันไม่ไหว รัฐบาลควรต้องเข้ามาช่วยจัดการ ซึ่งจะหมดหนทางจริงๆถ้ารัฐบาลไม่ช่วยเหลือ
อยากให้รัฐบาลได้ลองคิดวิธีทางที่จะเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจคล่องตัว ประชาชนสามารถหาเงินทุนมาทำทุนต่อยอดได้ ลดขั้นตอนการขอกู้เงิน อีกทั้งช่วยเหลือในการ ลดหนี้ ลดดอก กับพวก NPLs ที่จะพอทำธุรกิจต่อได้ถ้าหนี้ไม่มากเกินไปนัก เพื่อให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ โดยพรรคเพื่อไทยได้เตรียมนโยบายรองรับในเรื่องนี้ไว้แล้ว หากพลเอกประยุทธ์ทำไม่ได้หรือทำไม่เป็นก็ควรจะออกไปได้แล้ว เพราะยิ่งอยู่นานประชาชนยิ่งลำบาก ให้คนที่มีความรู้ความสามารถและทำสำเร็จมาแล้วเข้ามาทำแทน ประชาชนจะได้หมดทุกข์หมดโศก มีรายได้เลี้ยงครอบครัวและส่งลูกเรียนหนังสือได้ อย่าอยู่ถ่วงความเจริญให้ประเทศอีกต่อไปเลย
