วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567
SHARE

เพื่อไทย ชี้ ประยุทธ์ สร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่

โพสต์โดย ปลายหอก เมื่อ 18 ตุลาคม 2565 - 11:38

คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย แถลงข่าว วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00 น. "ทำใจ ทำใจ ทำใจ" "สร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่" โดย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ, นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดเชียงใหม่ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นพ. กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดมหาสารคาม และ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขาธิการและกรรมการคณะยุทธศาสตร์และการเมือง

“พิชัย” ชี้ “ประยุทธ์” สร้างปัญหาหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ ห่วง สหรัฐอเมริกาขึ้นดอกเบี้ย ทำเงินทุนของไทยลดลง แนะ ฟังแนวทางไอเอ็มเอฟ และ “โน๊ต” สะท้อนความจริงที่คนไทยรู้สึก

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่มีกระจายคลิปของ “โน๊ต” อุตม แต้พานิช ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานที่ล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์จนเป็นกระแสฮือฮาทั่วโซเซียล และเป็นแนวทางเดียวกับที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้วิพากษ์วิจารณ์พลเอกประยุทธ์มาตลอด และเคยแถลงความล้มเหลว 10 ข้อไว้แล้ว

ทั้ง การเป็นรัฐบาลที่พึ่งไม่ได้ การกู้หนี้จากหลายชาติ ชาตินี้ใช้หนี้ไม่หมด แกล้งโกรธเพื่อกลบปัญหา โปร่งใสแต่ห้ามตรวจสอบ  โดยเฉพาะเรื่องสร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ ที่ปัญหาต่างๆจะเพิ่มขึ้นใหม่และประดังเข้ามาอย่างแน่นอน ทั้งเรื่องเงินเฟ้อของไทยที่ยังสูงอยู่ที่ 6.41 %ในเดือนกันยายน การขาดดุลการค้าและขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และ การขาดดุลการคลังจำนวนมากที่จะมีแผนกู้ใหม่ถึง 1.05 ล้านล้านบาทในปี 2566 ปัญหาดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นปัญหาใหม่ที่พลเอกประยุทธ์ยังไม่รู้เลยว่าจะรับมืออย่างไรหรือพึ่งไม่ได้จริงตามที่โน๊ตบอก

โดยล่าสุด อัตราเงินเฟ้องของสหรัฐอเมริกาในเดือนกันยายนอยู่ที่ 8.2% ซึ่งยังสูงมาก ทั้งที่ธนาคารกลางสหรัฐได้ขึ้นดอกเบี้ยแล้ว 3 ครั้งแต่เงินเฟ้อของสหรัฐก็ยังไม่ลดลงข่าวเลย ดังนั้นจึงเป็นไปได้สูงที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในครั้งหน้า ธนาคารกลางสหรัฐน่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% และ อาจจะขึ้นถึง 2 ครั้งเลยก่อนสิ้นปี ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัผมในสิ้นปีนี้อาจจะสูงถึง 4.50% และ อาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีหน้าด้วย

ทั้งนี้ การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐจะผลกระทบต่อไทยค่อนข้างมาก ซึ่งกดดันให้ ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม แม้อาจจะไม่ขึ้นสูงเท่าแต่ก็คงต้องขึ้น เพิ่อไม่ให้ช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยของไทยและสหรัฐต่างกันมาก ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเร็วเกินไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อให้มากขึ้น อีกทั้งป้องกันไม่ให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศไหลออก โดยในเดือนกันยายนลดลงถึง 14,017 ล้านเหรียญ

ทำให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศไทยลดลงมาเหลือ 199,444 ล้านเหรียญ หลุดจาก 2 แสนล้านเหรียญแล้ว ซึ่งนับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี และคิดเป็นการลดลง 18.9% จากปลายเดือนปีที่แล้ว ซึ่งหากยังลดลงอย่างรวดเร็วอีก ก็น่าเป็นห่วงเพราะระดับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยที่สะสมมาตั้งแต่หลายรัฐบาลเป็นจุดแข็งของไทยจุดเดียวที่ยังมีอยู่ ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้ระมัดระวัง เพราะอาจจะเป็นปัญหาหนักได้ในอนาคต

ทั้งนี้ ตามที่รัฐบาลอ้างว่ามีนิตยสารจัดไทยอันดับ 5 ของเอเชีย ก็อยากให้รัฐบาลและ ธปท. ได้ฟังคำแนะนำของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดย Corinne Delechat หัวหน้าแผนกของเอเชีย แปซิฟิก ของไอเอ็มเอฟ และ เป็นหัวหน้าภารกิจในประเทศไทย ที่กล่าวเหมือนกับที่คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยได้เคยเตือนไว้แล้วหลายครั้ง โดยเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาตลอดจากปัจจัยความเสื่อมถอยหลายด้าน ดังนั้นการที่จะฟื้นเศรษฐกิจไทยจะต้องปรับเปลี่ยนหลายด้านพร้อม ๆ กัน

โดยเฉพาะการลงทุนทางด้านดิจิตอลและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวของกับภูมิอากาศและการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ได้เกาะกระแสการขยายตัวของการปรับเปลี่ยนด้านดิจิตอลและการปรับเปลี่ยนด้านสีเขียวหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เร่งพัฒนาในการเป็นศูนย์กลางการค้าและศูนย์กลางการเงินของภูมิภาคจะขยายฐานเศรษฐกิจของไทยให้ทีการค้าการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยมีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับปัญหาของเศรษฐกิจโลกได้ ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ฟังมุมมองจากไอเอ็มเอฟที่บอกเหมือนคณะทำงานพรรคเพื่อไทยได้เตือนไว้แล้วบ้าง จะได้เลิกอคติคิดว่าเป็นการโจมตี

ผู้นำที่ดีต้องเปิดใจรับฟังเสียงสะท้อนจากทุกด้านเพื่อนำมาพิจารณาปรับปรุงการทำงานของตนเอง แม้กระทั่งเสียงจากคุณโน้ต ที่นำเรื่องจริงมาทำเป็นเรื่องตลก สะท้อนผู้นำ ที่ในต่างประเทศก็ทำกันเสมอ เพราะนั่นเป็นการสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของคนส่วนใหญ่ ถึงขนาดที่เป็นกระแสกระหึ่มทั้งโซเชียลขนาดนี้ ถ้ายังปิดหูปิดตาส่งลิ่วล้อมาโต้แบบมั่วๆ ก็ควรจะต้องดีดตัวออกจากเครื่องบินที่บรรทุกคนไทยทั้งประเทศกันได้แล้ว มิเช่นนั้นก็คงไม่พ้นที่จะ “สร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่” ให้คนไทยลำบากกันต่อไป

“จักรพล” ชี้ เชื่อมไทย เชื่อมโลก นำไทยกลับมาเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรค พท. แถลงว่า จากการที่เข้าประชุมเวทีประชุมสุดยอดประธานรัฐสภาของกลุ่ม G20 ทำให้ตนได้เห็นโอกาสในการพัฒนานโยบายและมาตรการระหว่างประเทศเพื่อนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลปัจจุบันว่าจะเห็นโอกาสและคว้าไว้หรือไม่?

นายจักรพล กล่าวต่อว่า การประชุมดังกล่าว จะเน้น 3 สาระหลัก คือ 1.การสร้างเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงินของโลก 2.การเพิ่มความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางการเงิน และ 3.การส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทั้งชั้นนำและเศรษฐกิจเขตใหม่ และมีประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งหมด 4 หัวห้อ ได้แก่ 1. เร่งการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านเศรษฐกิจสีเขียว BCG 2. การภาวะขาดแคลนอาหารและพลังงาน 3. การสร้างรัฐสภาที่มีประสิทธิภาพและประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง 4. พลังทางสังคม โดยเฉพาะความเท่าเทียมทางเพศและพลังของผู้หญิง ซึ่งตนเองในฐานะตัวแทนประเทศไทยได้เข้าไปเสนอไอเดียต่าง ๆ เช่น Climate change การบ่งชี้ถึงวิกฤติความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน ความเท่าเทียมทางเพศ ความเข้มแข็งของระบบสภาบนพื้นฐานของประชาธิปไตย พลังของคนเยาวชนคนรุ่นใหม่

นายจักรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอดีตสมัยพรรคไทยรักไทยได้นำนโยบายระหว่างประเทสมาใช้และทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น โดยผลการดำเนินงานในสมัยแรกมีการขยายตัวสูงสุดของ GDP อยู่ที่ 6.9% มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 23% อันเนื่องมาจากการเจรจาเปิดการค้าเสรีกับหลายประเทศ หนี้สาธารณะลดลงเหลือร้อยละ 47.8

ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยง่าย และนโยบายการต่างประเทศที่มีนัยยะสำคัญในการพัฒนาประเทศ ภายใต้แนวคิด “เชื่อมไทย เชื่อมโลก” ไม่ว่าจะเป็น การทำนโยบายต่างประเทศเชิงรุก ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) กรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) และยังมีกรอบพหุภาคีอื่นๆอีกมากมาย และตนเชื่อว่าหากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง บรรยากาศของความรุ่งเรืองของประเทศไทยจะกลับมาอย่างแน่นอน

“จากการเข้าร่วมประชุมที่ผ่านมาเห็นได้ว่ารัฐบาลยังขาดวิสัยทัศน์และความสามารถในการนำพาประเทศไทยไปสู่เวทีโลก ถึงแม้ว่ารัฐบาลได้มีการนำแนวคิดและหลักการของกระแสโลกมาใช้ แต่หารู้ไม่ว่าตนเองไม่มีความรู้และประสิทธิภาพเพียงพอในการบริหารประเทศ อยู่มาแล้ว 8 ปี แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับสวนทางกลับระยะเวลาที่ตนเองบริหาร ดังนั้นเพื่อไทยจึงขอเสนอตนเองสำหรับการพัฒนาประเทศอีกครั้ง และจะนำแนวคิด เชื่อมไทย เชื่อมโลก นำไทยกลับมาเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวเพื่อคุณภาพชีวิตประชาชนที่ดีขึ้นและเพื่ออนาคตที่สดใสของคนรุ่นถัดไป” นายจักรพลกล่าว

“นพ. กิตติศักดิ์”  จี้ “ประยุทธ์” เร่งช่วยประชาชนเรื่องน้ำท่วม

นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคาม คณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศไทยเป็นปัญหาที่สาคัญที่รัฐบาลควรเร่งแก้ไข และปัจจุบันประเทศไทยได้เกิดภัยพิบัตินาท่วมหลายจังหวัด ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก รัฐบาลจึงควรเร่ง ช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาให้กับประชาชนโดยเร่งด่วน

ทั้งการช่วยเหลือโดยเร่งด่วนในเบื้องต้น การช่วยเหลือหลังน้ำลด สิ่งไหนที่ก่อให้เกิดประโยชน์และผลดีช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที สามารถยกเว้นระเบียบทางราชการได้ก็อยากให้รัฐบาลเร่งทำทันที โดยที่ไม่หวังผลในทางการทุจริตมากกว่าการช่วยเหลือประชาชน เพราะในบางเรื่อง ถ้ารอปฏิบัติตามระเบียบราชการมากเกินไป ก็จะไม่ทันท่วงทีในการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อน

ทั้งนี้ ในการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปี 2554 ท่านอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ชดเชยน้ำท่วมบ้านพักอาศัย และทรัพย์สินหลังละ 5,000 บาท ทรัพย์สินเครื่องมือประกอบอาชีพ ครอบครัวละไม่เกิน 10,000 บาท ไร่นาเกษตรกร ปลูกข้าวไร่ละ 2,222 บาท แต่ในปี 2564 รัฐบาลชุดปัจจุบันเยียวยาข้าวไร่ละ 1,340 บาท จึงอยาก ให้รัฐบาลได้พิจารณาเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในครั้งนี

โดยคำนึงถึงภาวะทางเศรษฐกิจ และต้นทุนในปัจจุบัน การพัฒนาหลังน้ำลด รัฐบาลควรเร่งพัฒนาซ่อมแซมปรับปรุงถนนหนทางและ คันคลอง หรือเครื่องมือต่างๆที่ชารุดจากปัญหาอุทกภัยในครังนี้ โดยเฉพาะประตูระบายน้ำโดยเร่งด่วน เพราะหากมัวรองบประมาณประจำปีก็ไม่ทันต่อการแก้ไขปัญหาดังเช่นปัจจุบัน อาทิเช่น จังหวัดมหาสารคาม เมื่อปีที่2564 ที่ผ่านมาเกิดปัญหาอุทกภัย หลังนำ้ลดได้ทำเรื่องขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ในเรื่องการปรับปรุงซ่อมแซมสถานีสูบนา 2 แต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุน ทำให้ ปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้เครื่องมืออุปกรณ์ไม่มีความพร้อมในการระบายน้ำ และอีกหลายปัญหา

โครงการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมปี2564 ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้รับงบประมาณมาดำเนินการแก้ไข ทำให้ปัจจุบันจังหวัดมหาสารคาม เกิดปัญหาน้ำท่วมหนักและขยายวงกว้างเสียหายเป็นจานวนมาก จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาและป้องกันน้ำท่วมให้เป็นระบบโดยเฉพาะ จังหวัดที่อยู่ตามลุ่มสายทางน้ำหลักๆที่สาคัญ ที่ประสบปัญหาเดิมๆแบบนี้ทุกปีพร้อมกับใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่ามากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

อนุสรณ์ แนะ ประยุทธ์ ประกาศให้ชัด จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ และกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กระตุ้นให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รีบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพปชร.หากไม่ลงมือทำ พรรคพปชร.อาจล่มสลายเหมือนพรรคทหารในอดีต ว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจดีใจจนทำตัวไม่ถูกหลังรอดพ้นจากปมเป็นนายกฯเกิน 8 ปี ช่วงเวลาที่สามารถเป็นนายกฯได้ถึงปี 2568 จะไม่มีความหมายเลย

ถ้าประชาชนไม่เลือกพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน โอกาสล่มสลายซ้ำรอยพรรคทหารเฉพาะกิจในอดีตสูง 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เข้าใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน มองประชาชนเป็นพลทหารในค่ายที่พร้อมสั่งซ้ายหันขวาหันตามอำเภอใจหรือไม่ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เข้าใจบริบทประชาชน ในที่สุดก็ไม่สามารถออกนโยบายที่โดนใจประชาชน การทำนโยบายจึงไม่สอดรับกับสภาพปัญหาที่แท้จริงของประเทศ

ถ้าไม่นับสารพัดโฆษกที่ออกมาอวย ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รัฐบาลทำอะไรบ้าง นอกจากการบริหารงานที่สับสน ออกมาตรการที่ผิดพลาดล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถุงมือยางหาย หน้ากากอนามัยล่องหน วัคซีนล่าช้าไม่เพียงพอกับความต้องการ ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก พล.อ.ประยุทธ์ โทษเรื่องบาปบุญ โชคชะตา อยู่ที่น้ำท่วมต้องทำใจ โดยไม่สนใจผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เสียหายหนักทุกปี ปล่อยประชาชนจมน้ำทุกปี แต่ละปีท่วมครั้งละหลายเดือน นาข้าว พืชผลการเกษตรที่เสียหายจมน้ำ รัฐบาลจะเยียวยาให้ครอบคลุมอย่างไร ถ้าไปต่อไม่ไหว ก็เร่งประกาศให้ชัดหลังยุบสภาจะตัดสินใจวางมือทางการเมือง

“8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้เงินเกือบ 30 ล้านล้านบาท แต่ไม่มีนโยบายอะไรที่สำเร็จเป็นมรรคเป็นผล เศรษฐกิจวิกฤตหนัก หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยหรือ” นายอนุสรณ์ กล่าว



แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

บริการของเรา

Advertising

พื้นที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Web Design

ออกแบบเว็บไซต์ ครบจบในที่เดียว ทั้ง FrontEnd และ BackEnd ด้วยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 15 ปี

Web Application

ไม่ว่าจะธุรกิจใดให้ระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จากรูปแบบเดิมๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Online

VDO Creator

บริการออกแบบ และ จัดทำ Presentation ShowCase Review สินค้า TVC หรือ Viral Clip

เราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy)
About Us | Advertising
Join With Us | Contact
Privacy Policy | Terms of Service
Corrections Policy | DMCA Copyrights Disclaimer
Ethics Policy | Fact-Checking Policy
Editorial team information | Ownership and Funding Info
ติดต่อลงโฆษณา: 0880-900-800, อีเมล์: ads@jarm.com
แนะนำติชม/ฝากข่าวประชาสัมพันธ์: info@jarm.com