ฉลองพระองค์ราชประแตนสีงาช้าง โจงผ้าไหมสีแดงลายไทยสีทอง ท่ามกลางประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จแน่นพระลานพระราชวังดุสิต
เมื่อเวลา 16.08 น.วันที่ 9 ธ.ค.2561 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์ย้อนยุคสมัย รัชกาลที่ 5 ราชประแตนสีงาช้าง โจงผ้าไหมสีแดงลายไทยสีทอง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จฯ ออกจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระลานพระราชวังดุสิตเพื่อทรงเปิดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว "สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์" บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า โอกาสเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 15.23 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฉลองพระองค์ชุดไทยย้อนยุคผ้าไหมสีม่วงผ้าแทบสีโอลด์โรส เสด็จฯ ถึงพระลานพระราชวังดุสิต ทรงวางพานพุ่มและทรงจุดเทียนถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้น เสด็จฯ ไปยังพลับพลาพิธี ทรงรอรับเสด็จ
เมื่อเสด็จฯ ถึงพระลานพระราชวังดุสิต สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงวานพานพุ่ม และทรงจุดเทียนถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามลำดับ จากนั้นทั้งสามพระองค์ทรงพระดำเนินไปยังพลับพลาพิธีเพื่อประทับพระราชอาสน์ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คณะกรรมการจัดงานอุ่นไอรักคลายความหนาว "สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์" และข้าราชการ เฝ้าฯ รับเสด็จ
ต่อมา พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะประธานกรรมการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว "สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์" กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงานฯ และทอดพระเนตรการแสดงชุด “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” นำแสดงโดย นักเรียนจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ถ่ายทอดเรื่องราวแห่งมหาเทพพระนารายณ์ เทพเจ้าผู้ปราบยุคเข็ญ และสรรค์สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับโลกมนุษย์ เปรียบประดุจพระมหากษัตริย์ไทย ธ เป็นดั่งองค์สมมุติเทพ จากพระนารายณ์อวตารมายังโลกมนุษย์ และสร้างความผาสุกให้แก่เหล่าพสกนิกร เปรีบประดุจสายน้ำที่สร้างทุกสรรพชีวิต หล่อเลี้ยงผู้คนและก่อเกิดวัฒนธรรม แห่งชีวิตกับสายน้ำ
จากนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ออกจากพลับพลาพิธีไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว "สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์" สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรห้องแสดงนิทรรศการ "พระมหากรุณาธิคุณแห่งสายน้ำ" ตามพระราชอัธยาศัย จากนั้นประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง ทอดพระเนตรนิทรรศการตามโซนต่างๆ ณ พระลานพระราชวังดุสิต ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุคร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์และความเย็นฉ่ำของสายน้ำ รวมทั้งทอดพระเนตรร้านจิตอาสา 904 ตลอดจนร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์, ร้านค้ารับเชิญ, ลานกิจกรรม "มัจฉาพาโชค" ณ บริเวณสนามเสือป่า ประทับพักพระราชอิริยาบถ ตามพระราชอัธยาศัย โดยใช้เวลาทอดพระเนตรนิทรรศการ 1.42 ชั่วโมง
สำหรับนิทรรศการดังกล่าวจัดแสดงถึงความรักและเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลปัจจุบัน รวมทั้งประวัติความเป็นมาของลำน้ำคูคลองสายต่างๆ วัฒนธรรมประเพณีที่งดงามแห่งสายน้ำ เช่น ขบวนเรือพระราชพิธีจำลอง 4 ลำ ขนาดครึ่งหนึ่งของลำจริง ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ ดำเนินการจำลองและจัดสร้างโดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม โดยในส่วนของสำนักสถาปัตยกรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้จำลองพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ พระที่นั่งหนึ่งเดียวที่ตั้งอยู่กลางน้ำในพระราชวังบางปะอิน มาตั้งอยู่ตรงกลางพระลานพระราชวังดุสิต รวมถึงงานการเขียนภาพจิตกรรมทิวทัศน์และภาพสามมิติ เพื่อเผยแพร่ความงดงามของศิลปะและประวัติศาสตร์ของไทย จำนวน 4 ผนัง อาทิ ภาพปลาสามมิติ, ภาพทิวทัศน์ท่าราชวรดิษฐ, บ้านเรือนริมน้ำคลองลัดโพธิ์ ฯลฯ โดยฝีมือของสำนักช่างสิบหมู่ นอกจากนี้ยังมีเรือสำเภาในรัชสมัยรัชกาลที่ 3, สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จำลองให้คนรุ่นหลังได้ย้อนอดีตว่าเคยเป็นสะพานแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดได้ งานประดิษฐ์และอาหารชาววัง เป็นต้น
ภายในบริเวณสนามเสือป่า จำหน่ายสินค้าจากร้านจิตอาสา 904 ร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ารับเชิญ อิ่มอร่อยกับอาหารในตลาดบก ตลาดน้ำ ตลาดเดินชิมริมทาง และยังได้ร่วมทำบุญลุ้นรับรางวัลมัจฉานำโชค ราคา 25 บาท สลากการกุศล 129 บาท รายได้จากการจัดงานทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย จะนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
