ผ่านมาเกินครึ่งปี 2020 แล้วกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาที่ยังคงน่าเป็นห่วง โดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงต่อเนื่อง จนมีการขู่ล็อคดาวน์รอบที่ 2 ออกมา
สำนักข่าว DailyMail รายงานว่า ฐานข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ได้เผยออกมาว่าเพียงแค่วันศุกร์วันเดียว สหรัฐฯ พบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงถึง 63,900 ราย ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสม 3,291,786 ราย จากตัวเลขสถิติมากมายที่บ่งชี้ว่า สหรัฐฯ ยังคงต้องสู้รบปรบมือกับเชื้อไวรัสไปอีกอย่างน้อย 1 ปีนั้นดูจะไม่เกินจริงเท่าไหร่นัก
นั่นทำให้ ดร. เอเซคีล เอมานูเอล นักชีวจริยธรรม ได้คาดการณ์ว่าประชาชนสหรัฐฯ อาจต้องจบชีวิตจากเชื้อร้ายตัวนี้ไม่น้อยกว่า 250,000 รายภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน อีกทั้งเขายังได้กล่าวตำหนิถึงการจัดการ ออกมารับรู้ถึงการมีอยู่ของสถานการณ์แพร่ระบาดของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีว่า "ไร้ประสิทธิภาพและหายนะอย่างยิ่งยวด"
และด้วยยอดที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ทำให้ทางนายเกร็ก แอ็บบอท ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสคนที่ 48 ออกมาแถลงการณ์ว่าแม้ยอดจะสูงมากมายขนาดนี้ แต่เชื่อเหลือเกินว่ามันจะต้องย่ำแย่กว่านี้ในสหรัฐฯ เอาเพียงแค่ในรัฐเท็กซัสที่มียอดผู้เสียชีวิตถึง 2,918 คนเข้าไปแล้ว พ่วงด้วยยอดผู้ติดเชื้อเข้าไปอีก 10,000 รายด้วย แต่เขาก็ยังไม่อยากประกาศล็อคดาวน์อีกเป็นครั้งที่ 2 โดยใช้เพียงเงื่อนไขง่ายๆคือให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเวลาออกจากบ้าน หากทำไม่ได้และยังติดเชื้อสูงขึ้นอย่างนี้ การประกาศล็อคดาวน์คงเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป...
ขอบคุณข้อมูลจาก: DailyMail