แดเนียล แอนดรูวส์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 48 ของรัฐวิคตอเรีย แสดงอาการโมโหเป็นอย่างมากต่อประชาชนชาววิคตอเรียที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง จนมีผู้เสียชีวิตเพิ่มและติดเชื้อกว่า 484 ราย
สำนักข่าว DailyMail รายงานว่า จากยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นนี้ ได้กลายเป็นตัวบ่งชี้ว่ากว่า 90% ของผู้ป่วยล้มเหลวในการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลทั่วไป และอีกกว่า 53% ล้มเหลวในการกักตัวขณะรอผลตรวจหาเชื้อ จากเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐวิคตอเรียในประเทศออสเตรเลีย ได้เผชิญกับการแพร่ระบาดรอบใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานเป็นกะที่แทบหาเวลาพักรักษาไม่ได้เลย เพราะงานของพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ลาหยุด
ด้านศาสตราจารย์ เบรนแดน ซัตตัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้กล่าวว่าวิคตอเรียกำลังอยู่ในจุดที่สุ่มเสี่ยงและอันตรายของการแพร่ระบาดเป็นอย่างมาก โดยได้คาดเดาเอาไว้ว่าอัตราการขยายตัวของไวรัสได้พัฒนาขึ้น หมายความว่าการแพร่ระบาดในวิคตอเรียจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบีบให้ทางการรัฐอาจประกาศล็อคดาวน์ระดับ 4 ซึ่งเข้มข้นมากถึงขนาดแทบจะจำกัดการเคลื่อนไหวของประชาชนเหมือนที่นิวซีแลนด์ทำ
แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ได้รีบท้วงติงมาทันทีว่า หากรัฐวิคตอเรียจะเอาเยี่ยงอย่างนิวซีแลนด์ มันอาจจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจในออสเตรเลียอย่างมาก จึงทำให้แนวทางดังกล่าวเป็นอันต้องพับไป...
ขอบคุณข้อมูลจาก: DailyMail