สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 วันที่ 3 ก.พ. 2564 ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 795 ราย ยอดสะสม 21,249 ราย มาจากต่างประเทศ เข้า State Quarantine 12 ราย จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 24 ราย ตรวจคัดกรองเชิงรุก 759 รายรักษาหายเพิ่ม 784 ราย ยอดสะสม 14,001 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ยอดสะสมคงที่ 79 ราย
สำนักข่าวซินหัวไทย รายงานสถานการณ์จาก กรุงเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ว่า สตเยนทร แชน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกรุงเดลี เมืองหลวงของอินเดีย เผย ผลสำรวจสิ่งส่งตรวจที่รวบรวมจากประชากร (sero-survey)ในเดลี พบประชาชนราวร้อยละ 56 มีแอนติบอดีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
“ผลสำรวจสิ่งส่งตรวจในเดลี ครั้งที่ 5 พบประชากรร้อยละ 56.13 มีแอนติบอดี” แชนเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ “นี่เป็นการสำรวจครั้งใหญ่ที่สุดที่รัฐบาลเดลีเคยทำมา” แชนกล่าวว่าเดลีสามารถยับยั้งโรคโควิด-19 ได้แล้ว แต่ยังคงเน้นย้ำการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ป้องกันโรคโควิด-19 ต่อไป “เดลีหยุดยั้งโรคโควิด-19 สำเร็จเป็นส่วนใหญ่ แต่เราควรปฏิบัติตนตามแนวทางที่เหมาะสมเพื่อป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง”
การทดสอบซึ่งบ่งชี้การติดเชื้อในอดีต (Serology tests) มักถูกใช้เฝ้าระวังโรคระบาดในชุมชน สามารถใช้กับผู้ที่เคยมีผลตรวจโรคเป็นบวกหรือผู้ป่วยไม่แสดงอาการ โดยจะช่วยเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันต้านโรคโควิด-19 “พื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของเดลีมีความชุกของระดับภูมิคุ้มกันมากสุดที่ร้อยละ 62.18 ขณะพื้นที่ตอนเหนือของเดลีมีความชุกของระดับภูมิคุ้มกันต่ำสุดที่ร้อยละ 49.09” แชนกล่าว
ทั้งนี้ ผลสำรวจสิ่งส่งตรวจจากประชากรในเดลี ครั้งที่ 5 บ่งชี้ว่าเดลีอาจใกล้บรรลุเป้าหมายสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ต่อโรคโควิด-19 แล้ว โดยการสำรวจที่สิ้นสุดลงไม่นานนี้ได้เก็บรวบรวมตัวอย่างจากประชาชนในหลายเขตของเมืองกว่า 25,000 คน เดลีเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 หนักหน่วงเป็นอันดับ 6 ของอินเดีย มีผู้ป่วยสะสม 635,217 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 10,856 ราย ขณะในภาพรวมอินเดียเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่รุนแรงเป็นอันดับ 2 ของโลก
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก สำนักข่าวซินหัวไทย