รมว.สาธารณสุข ยืนยันการจัดการวัคซีนโควิด19ของไทยไม่ล่าช้า สวนกลับผู้ไม่เกี่ยวข้อง คนที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ได้อ่านข่าวแล้วนำข้อมูลมาประมวลแล้วเสนอให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ขอให้สงบปากสงบคำ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องของวัคซีนโควิด-19 ภายหลังประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่า ขณะนี้ไทยจะได้วัคซีนโควิด 19 จากซิโนแวคเข้ามาก่อน 2 ล้านโดส แบ่งเป็น ก.พ. 2 แสนโดส มี.ค. 8 แสนโดส และเม.ย. 1 ล้านโดส สำหรับการฉีดให้แรงงานข้ามชาตินั้น เรื่องค่าใช้จ่ายต้องมีการพูดคุยกับนายจ้างและกระทรวงแรงงาน
การจัดหาวัคซีนมีหลายบริษัทเข้ามาคุย อย่างสัปดาห์ที่แล้วมีจอนห์สัน แอนด์ จอนห์สัน เข้ามาหารือ แต่ยังไม่ทำสัญญา เพราะมีข้อตกลงที่ยังไม่อาจยอมรับ เช่น ต้องสั่งซื้อจำนวนมาก และกว่าจะได้ล็อตแรกก็ปลาย ไตรมาส 3 ซึ่งไปทับซ้อนกับของแอสตราเซนเนกา ถ้าจะสั่งต้องให้เกิดประโยชน์จริงๆ ซึ่งเรามีเวลาพิจารณา นอกจากนี้ วันที่ 9 ก.พ. จะหารือร่วมกับทางการรัสเซียด้วย ยืนยันว่าเราไม่ปิดกั้น พยายามโน้มน้าวให้มีการมาขึ้นทะเบียนในไทยให้ได้มากที่สุด เพื่อจะขายให้ทางเอกชนได้ เพราะอนาคตโรคโควิด 19 อาจจำเป็นต้องได้รับวัคซีนต่อเนื่อง
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการคาดการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับการจัดหาวัคซีน ขอยืนยันว่าไม่ได้ล่าช้า ไม่ได้ขี่ม้าตัวเดียว อนุกรรมการฯ ทำงานกันมานาน โดยไม่มีแรงกดดันทางการเมือง ผู้ที่มาร่วมเป็นคณะทำงานล้วนเป็นหมอ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่จะหยิบใครมาทำงานก็ได้ ไม่ใช่ว่าจะเอาคนใกล้ชิดนักการเมืองเข้ามาทำ การที่คณะทำงานตัดสินใจไป ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ก็ไปเปลี่ยนการตัดสินใจไม่ได้
“คนที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ได้อ่านข่าวแล้วนำข้อมูลมาประมวลแล้วเสนอให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ขอให้สงบปากสงบคำ” เพราะไม่เกิดประโยชน์ มีแต่บั่นทอนกำลังใจ การออกมาพูดของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง มีแต่ทำให้เกิดความสับสน อลหม่านในใจประชาชน เรื่องนี้ต้องให้กำลังใจกัน ไม่ใช่มาขู่ ประเทศไทยมีฝ่ายบริหารที่ทำงานอยู่แล้ว ถ้าจะให้ข่าวที่ย้อนแย้งกันไม่มีประโยชน์ เพราะท่านไม่ได้บริหารประเทศ เอาเวลาไปหาวิธีเพื่อที่จะได้เข้าบริหารประเทศดีกว่า
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก EasyYukhon , pixabay