ได้รับรายงานว่า เมื่อวานนี้เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อสูงถึง 237 ราย เกิดจากการตรวจเชิงรุก ทำให้พบการระบาดใน 3 คลัสเตอร์ใหม่ คือ เรือนจำ ศูนย์เด็กเล็ก และ สถานปฏิบัติธรรม ทั้งนี้พบว่ามีเด็กในศูนย์เด็กเล็ก อายุ 4-6 ปี ติดเชื้อทั้งหมด 14 ราย และอีก 2 ราย เป็นผู้ใหญ่
เมื่อวานนี้(22 เม.ย. 64) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงถึงสาเหตุที่ตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ ได้สูงขึ้นแบบก้าวกระโดดว่า เกิดจากการตรวจเชิงรุก
ทำให้พบการระบาดใน 3 คลัสเตอร์ใหม่ คือ เรือนจำ ศูนย์เด็กเล็ก และ สถานปฏิบัติธรรม โดยลักษณะของการติดเชื้อในระลอกนี้พบว่าส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มในการทำกิจกรรม การสังสรรค์ และการพบปะกันในโอกาสต่าง ๆ โดยละเลยมาตรการควบคุมโรค โดยเฉพาะการไม่สวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง ขณะทำกิจกรรมร่วมกัน จึงขอให้ประชาชนตระหนักถึงสุขอนามัยส่วนบุคคลเป็นสำคัญ และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ซ้ำรอย
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้ สูงถึง 237 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมในระลอกเดือนเมษายนของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ที่ 2,819 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มมาจาก 3 คลัสเตอร์ ได้แก่ คลัสเตอร์เรือนจำกลาง อำเภอแม่แตง จำนวน 37 ราย ซึ่งไม่ได้เป็นการระบาดในแดนผู้ต้องขัง แต่เป็นผู้ต้องขังแรกรับ ที่พบจากการตรวจในระหว่างกักตัวตามมาตรการ 14 วัน ซึ่งผู้ติดเชื้อทั้ง 37 ราย ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่
ส่วนที่พบผู้ติดเชื้อจาก ศูนย์เด็กเล็ก เทศบาลตำบลแม่คือ พบว่าเกิดจากคุณครูที่ติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งจากการตรวจกลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมด 120 ราย พบว่ามีเด็กใน ศูนย์เด็กเล็ก อายุ 4-6 ปี ติดเชื้อทั้งหมด 14 ราย และอีก 2 ราย เป็นผู้ใหญ่ ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้โรงพยาบาลนครพิงค์และโรงพยาบาลดอยสะเก็ด ร่วมกับทางอำเภอดอยละเก็ด จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจขึ้น เพื่อดูแลรักษาผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้แล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก อีจัน
ขอบคุณภาพประกอบข่าวเพิ่มเติมจาก pixabay