เป็นไปได้แค่ไหน? กับการติดเชื้อ CV - 19 จากอาหารที่กินเข้าไป น่าจะเป็นอีกหนึ่งกรณีที่หลายคนสงสัย และอดกังวลไม่ได้ ล่าสุด นายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน ได้ออกมาชี้แจง ถึงความเป็นไปได้ รวมถึงวิธีป้องกัน
นายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด วิกฤตบำบัด และการปลูกถ่ายปอด ที่สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเผยข้อเท็จจริงถึงการติดเชื้ อ CV -19 จากอาหาร ปัจจุบันยังไม่มีรายงานในเรื่องนี้เลย แต่โดยทฤษฎีแล้ว เชื้ อสามารถเข้าได้ทางเยื่อบุต่างๆ นะ เช่น เยื่อบุตา เยื่อบุจมูก เป็นต้น
แม้ว่าทางน้ำตา น้ำลายของเรา มีสารที่เอาไว้ฆ่าเชื้ อ แต่มันไม่สามารถกำจัดเชื้ อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าเชื้ อที่เข้าไปมีปริมาณมากกว่าสารคัดหลั่งตรงนั้นจะกำจัดได้
ปัจจุบัน ก็ยังไม่ทราบว่าเชื้อต้องมีปริมาณมากแค่ไหน ถึงจะทำให้เราติดได้ ก็ควรป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด และในกรณีที่กินเข้าไป ก็ติดเชื้อได้ และบางคนที่ติดไปแล้ว ก็จะมีอาการทางเดินอาหาร เช่นท้องเสีย มวนท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น และที่สำคัญก็คือ ถ้าเราตรวจอุจจาระของผู้ที่เป็น CV -19 ก็จะยังเจอเชื้อได้อยู่ดี
ทีนี้มาถึงวิธีป้องกัน เวลาไปซื้ออาหาร ดีที่สุดคือซื้อในร้านที่บรรจุภาชนะอาหารมาแล้ว และเมื่อซื้อมาก็จะฉีดยาฆ่าเชื้ อพ่นบริเวรณรอบๆ โดยที่ตัวเราต้องอยู่ห่างด้วย จะได้ปลอดภัยจากระบบทางเดินหายใจของตัวเราเองด้วย หลังจากนั้นต้องเช็ดบริเวณสเปรย์ที่เราฉีดให้ทั่วๆ บริเวณที่เราต้องการฆ่ า เชื้อ
ส่วนเรื่องอาหารที่อยู่ข้างใน ถ้าเป็นอาหารที่ปรุงสุกมาแล้ว ส่วนใหญ่เชื้ อก็ต าย หมดแล้ว ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นอาหารพวกที่ทำให้สุกไม่ได้ เช่น ปลาดิบ น้ำแข็ง และเชื้อไม่ชอบอะไรที่ร้อนๆ ชอบอยู่ที่เย็นๆ ชื้นๆ มันจะอยู่ได้นาน
แต่นับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าดีใจอย่าง ที่เรายังไม่พบว่ามีผู้ติด เชื้ อ CV -19 จากการกินอาหารแบบนี้ อาจจะเป็นไปได้ว่า ถ้ามีปริมาณเชื้ อในอาหารอยู่น้อย และเรากินเข้าไป ภูมิคุ้มกันมากำจัดปกป้องเราได้ แต่ถ้าเชื้อมันเยอะมากๆ เช่นในปลาดิบชิ้นนั้น คนที่ทำบ้วนน้ำลายใส่เข้าไป อาจจะติดได้
ดังนั้นการเลือกซื้ออาหาร จึงต้องดูว่าท่านเลือกมาจากแหล่งไหน แต่ที่อยากจะเน้นย้ำคือ อย่าทานร่วมกันเด็ดขาด หรือหากต้องแบ่งอาหาร ทำการแบ่งกันก่อนให้เรียบร้อย และแยกออกมาเริ่มรับประทานอาหารคนละมุม ช้อนส้อมของใครของมัน จะดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
นพ.ธนีย์ ธนียวัน