ยอดผู้ติดเชื้อ CV-19 วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2564 รวม 8,452 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 7,654 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 631 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 160 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 7 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,846,452 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 8,449 ราย หายป่วยสะสม 1,730,871 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 98,096 ราย เสียชีวิต 57 ราย
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 26 ต.ค. 2564) รวม 72,049,529 โดส ใน 77 จังหวัด ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 26 ตุลาคม 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 812,009 โดส
- เข็มที่ 1 : 371,263 ราย
- เข็มที่ 2 : 401,747 ราย
- เข็มที่ 3 : 38,999 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 40,717,544 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 29,115,651 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 2,216,334 รายแหล่งข้อมูล : MOPH-IC
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ 7 วิธีทำความสะอาดผ้าที่สวมใส่ ให้ปลอดภัยและห่างไกลจากเชื้อ CV-19 ชี้ หากใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ให้ระวังจุดที่ต้องสัมผัสร่วมกัน โดยหมั่นทำความสะอาดทุก 1-2 ชั่วโมง
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การสวมเสื้อผ้าซ้ำ การอยู่ในบ้านที่มีผู้ป่วยโรค CV-19 หรือพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น แออัด หรือพื้นที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ทำให้มีโอกาสที่เชื้อ CV-19 จะเกาะติดอยู่ตามพื้นผิวเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับได้ โดยเชื้อCV-19 สามารถอยู่บนผ้าได้นานถึง 24 ชั่วโมง ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ประเภทของพื้นผิว อุณหภูมิ และความชื้นสัมพันธ์ เป็นต้น
เมื่อกลับถึงบ้านจึงควรอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่โดยทันที ส่วนเสื้อผ้าที่ใช้แล้วให้ซักทำความสะอาด เนื่องจากเชื้อ CV-19 จะมีกระเปาะหุ้มตัวเอง การซักผ้าด้วยผงซักฟอกจะไปทำลายกระเปาะหุ้มตัวนี้ได้ เมื่อไม่มีกระเปาะหุ้มตัวเชื้อ CV-19 ก็จะตาย ดังนั้น เชื้อ CV-19ที่เกาะตามเสื้อผ้าสามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผงซักฟอก เช่นเดียวกันกับการล้างมือที่ใช้เพียงสบู่ธรรมดาก็กำจัดเชื้อไวรัสบนมือได้
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการทำความสะอาดเสื้อผ้าที่สวมใส่ เพื่อลดความเสี่ยงโรค CV-19 ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
- 1) เสื้อผ้าหรือหน้ากากผ้าที่ใช้แล้ว หากยังไม่ได้ซักทันทีควรนำไปแขวนผึ่งก่อนใส่ตะกร้าผ้าเพื่อรอการซัก
- 2) หลีกเลี่ยงการสะบัดเสื้อผ้าในบ้าน เพื่อลดโอกาสฟุ้งกระจายของเชื้อโรค ที่อาจปนเปื้อน
- 3) หยิบเสื้อผ้าออกจากตะกร้า โดยทำให้ตัวเราสัมผัสเสื้อผ้าในตะกร้าให้น้อยที่สุด
- 4) ใส่น้ำยาซักผ้า และกดปุ่มเครื่องซักผ้าให้ทำงานตามปกติ
- 5) ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังจากนำเสื้อผ้าเข้าเครื่องซักผ้า เพื่อป้องกันการนำมือสกปรกมาสัมผัสใบหน้า หรือไปสัมผัสสิ่งอื่น
- 6) นำไปตากแดดจัด หรือตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเทจนแห้ง แล้วนำมารีดทั้งข้างในและข้างนอกตัวเสื้อ
- 7) เช็ดทำความสะอาดถังหรือตะกร้าใส่เสื้อผ้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นประจำ
“ทั้งนี้ หากไม่มีเครื่องซักผ้าส่วนตัว และจำเป็นต้องใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ให้บริการตามหอพัก แหล่งชุมชนต่างๆ สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ บริเวณเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่เป็นจุดสัมผัสร่วมกัน เช่น ช่องใส่ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ปุ่มกดเลือกโปรแกรมซักผ้า ฝาปิดเครื่องซักผ้า เป็นต้น ผู้ดูแลจึงต้องทำความสะอาดให้บ่อยขึ้นกว่าเดิม หรือทุก ๆ 1 – 2 ชั่วโมง สำหรับผู้ใช้ควรเลือกใช้บริการในช่วงที่คนใช้น้อย รักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร สวมหน้ากากตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสใบหน้า และ เมื่อกลับถึงบ้านให้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ทันที” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรู้สู้โควิด , สสส.