วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีภาพข่าว คนติดโควิด-19 นอนรอการช่วยเหลือริมถนน เนื่องจากโรงพยาบาลไม่รับ โดยนายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีภาพผู้ป่วยนอนรอการช่วยเหลือริมถนน

ได้มีการตรวจสอบกับอธิบดี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว ยืนยันว่า จำนวนเตียงและโรงพยาบาลทั่วประเทศมีความพร้อม เมื่อถามว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น จะมีการปรับระดับการให้บริการของสปสช. ในการดูแลประชาชนอย่างไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ปรับแล้ว รวมถึงเรื่อง UCEP หรือ สิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐบาล เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ยกเลิกการรักษา แต่รักษาตามสมมติฐานของโรค หากเป็นผู้ป่วยสีเขียว จะใช้ระบบ Home Isolation หรือ Community Isolation หากมีอาการสีเหลืองหรือสีแดงก็จะได้รับสิทธิการรักษาในระบบ UCEP ที่ได้ทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน ทั้งนี้ เพื่อให้เตียงว่างสำหรับผู้ป่วย

"คนมานอนอยู่ข้างถนน ผมก็ดูข่าว ไม่ได้อยู่เฉย ๆ ปลัด อธิบดี เช็คแล้วเช็คอีก มันไม่มี เพราะเตียงมันยังมีอยู่ ยังไม่ถึงครึ่ง ยาเราก็มีเต็มที่ และโรคนี้เราก็ใช้ระบบ Home Isolation ตอนนี้เน้นให้คนมาฉีดวัคซีนเยอะ ๆ ซึ่งเข็ม3 ก็ต้องรอเวลาที่ถูกต้อง" อนุทินกล่าว
จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขแถลงยกระดับให้เป็นระดับ 4 นายอนุทิน ระบุว่า เราปรับระดับมาเป็นระดับ 4 มานานแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในระดับ 5 และปรับลดลงมา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นยกระดับ ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงไปสื่อสารว่าเป็นการยกระดับ ถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติตน เหมือนลักษณะที่แพทย์ออกมาเตือน เพื่อไม่ให้ประชาชนมีความเสี่ยง

ในส่วนของแนวโน้ม ที่จะมีการล็อกดาวน์ ขณะนี้ประเทศอื่นทั่วโลก กราฟพุ่งสูงกว่าประเทศไทย ซึ่งไทยเราพยายามทำดีที่สุด โดยการหาทางสายกลาง ขอย้ำว่าโอมิครอนติดง่าย หายเร็ว และความรุนแรงของโรคไม่เหมือนสายพันธุ์อื่น แม้กระทั่งขณะนี้จะมีสายพันธุ์ BA2 ก็จะไม่ส่งผลให้มีอาการรุนแรงไปกว่าโอมิครอนเดิม
อย่างไรก็ตามการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) กรมควบคุมโรค และที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข ได้นำเสนอที่ประชุม ศบค.เพื่อให้มาตรการต่าง ๆ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งจัดอยู่ในวาระปกติ

อาจจะมีมาตรการการเข้าประเทศ ที่อาจจะยกเลิกการตรวจ RT-PCR ให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศในวันที่ 5 เนื่องจากไม่มีความจำเป็น แนวโน้มน่าจะลดลง และการติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในประเทศ ไม่ได้มาจากต่างประเทศ

ขอบคุณข้อมูลจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว