จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงแพร่กระจายอยู่ทั่วโลกในขณะนี้ ซึ่งไม่มีวี่แววว่าจะหายไปหรือบรรเทาลงเมื่อไหร่ โดยเฉพาะกับการกลายพันธุ์ของเชื้อ ที่แม้แต่การฉีดวัคซีน ก็ไม่สามารถป้องกันเชื้อได้แบบเต็มที่
ล่าสุด วันที่ 4 มีนาคม 65 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า บทความจากวารสารซิกแนล ทรานส์ดักชัน แอนด์ ทาร์เก็ต เธอราปี (Signal Transduction and Targeted Therapy) ระบุว่าแอนติบอดีข้างต้นที่ใช้ตำแหน่งตัวรับ-ตัวยึดเกาะในโปรตีนหนามของเชื้อไวรัสฯ สามารถต้านโรคโควิด-19 และเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ หลายสายพันธุ์ อาทิ เบตา เดลตา และโอไมครอน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหล่านักวิจัยจากสถาบันจุลชีววิทยา สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ใช้เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ตั้งต้น และสายพันธุ์เบตา เป็นอิมมูโนเจน (immunogen) หรือสารกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน เพื่อให้ได้แอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ที่แข็งแกร่ง
ผู้เชี่ยวชาญให้แอนติบอดีกับหนูทดลองทางจมูก และตรวจไม่พบเชื้อไวรัสฯ มีชีวิตหรือความเสียหายในปอดของหนู ซึ่งบ่งชี้ว่าการรับแอนติบอดีทางจมูก เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสฯ
คณะนักวิจัยเผยว่าวัตถุที่พวกเขาพัฒนาขึ้นคือแอนติบอดี ชนิดอิมมูโนโกลบูลิน วาย (Immunoglobulin Y) สกัดมาจากไข่แดง ซึ่งมีข้อดีคือต้นทุนต่ำและสามารถผลิตได้ในปริมาณมาก
ทั้งนี้ แอนติบอดี ชนิดอิมมูโนโกลบูลิน วาย มีศักยภาพเป็นเครื่องมือเสริมทรงประสิทธิภาพสำหรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีอยู่เดิม โดยอาจช่วยปิดกั้นเส้นทางการแพร่เชื้อไวรัสฯ ในสัตว์เลี้ยงและสัตว์อื่น ๆ ที่มีโอกาสรับเชื้อ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก xinhuathai